วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 16 (ตอนอวสาน)

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 16 (วันที่ 19 พ.ค.54) ตอนอวสาน

















วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เลดี้บ้านนา



อั๋น วิทยา - เลดี้บ้านนา

วิคกี้ สุนิสา เจท - เลดี้บ้านนา


เรวดี หรือ ดีดี้ (สุนิสา เจทท์) สาวสวยไฮโซโปรไฟล์ดีเลิศ และร่ำรวยจากทรัพย์สมบัติมากมายที่บิดาและมารดาซึ่งเสียชีวิตแล้วทิ้งเอาไว้ให้ วันหนึ่งเธอได้ไปร่วมเดินแบบในงาน “ลดโลกร้อน” ซึ่งเธอต้องการจะฉีกหน้าเพื่อนไฮโซที่มาเดินแบบร่วมกัน เลยฉีกชุดเพื่อเผยให้เห็นสร้อยเพชรเซ็ตใหญ่ พร้อมกับถอดออกบริจาคให้กับงานครั้งนี้ เรวดีจึงกลายเป็นดาวเด่นของงานขึ้นมาในพริบตา เธอกลับออกจากงานด้วยความสะใจและมีความสุขอย่างยิ่ง แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพบกับโชคร้าย เมื่อเธอเกิดไปเห็นเหตุการณ์เลขาของท่าน อำนาจ ผู้มีอิทธิพลชื่อดังถูกฆ่าปิดปาก อำนาจจึงสั่งให้ ยศ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) มือปืนข้างกายออกไล่ล่า ดีดี้ก็เลยต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน แต่โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจาก จรัญ (ณัฐนันท์ จันทร์วิโรจน์) ตำรวจหนุ่มผู้ทำคดีนี้ แต่ไม่นานนักพวกของอำนาจเห็นดีดี้ ตามสื่อต่างๆ ก็รู้ว่าเธอคือคนที่เห็นการฆาตกรรมนั่นเอง.. 

เรวดีตั้งใจจะไปแจ้งความเรื่องอำนาจให้ได้ แต่จรัญห้าม เพราะหัวหน้าใหญ่มีเส้นสายวงในยากที่จะเอาผิดได้ง่ายๆ ต้องรอหาหลักฐานให้แน่นหนาเสียก่อน และขอให้พยานปากเอกอย่างเธอหลบไปเก็บตัวเพื่อความปลอดภัย ถึงแม้ตอนแรกเธอจะไม่เชื่อ ทว่าดีดี้ถูกไล่ยิงกลางเมืองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้เรวดีเริ่มตระหนักแล้วว่าชีวิตของเธอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เธอจึงยอมไปอยู่ในที่-ที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของจรัญ นั่นคือ หมู่บ้าน “บ้านดอน” หนึ่งในอำเภอไกลแสนไกลของ พายัพ (วิทยา วสุไกรไพศาล) เพื่อนสนิทของเขา ที่เป็นที่รักของชาวบ้านทุกคน 

เมื่อคนรวยอย่างดีดี้ต้องไปอยู่บ้านต่างจังหวัด เธอก็คิดไปเองว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่สวยงาม มีบ้านสไตล์ยุโรปตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวขจี มีลำธารน้ำใสไหลผ่าน มีแกะขนสีขาวปุยเต็มทุ่ง เธอจึงขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบรนด์เนมไปหลายใบ แต่จรัญกลับพาเธอนั่งรถทัวร์แทนนั่งรถส่วนตัว แถมยังต้องขนกระเป๋าราคาแพงขึ้นรถสองแถวแดง เพื่อขับฝ่าถนนลูกรังไปอีกไกลจนถึง ‘บ้านดอน’ 

เมื่อมาถึง จรัญก็พาเรวดีไปบ้านของพายัพซึ่งเป็นแค่บ้านไม้สองชั้นสุดแสนธรรมดา ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งคู่ยังไม่ได้พบกับพายัพ พบแต่ พยอม (ดวงตา ตุงคะมณี) มารดาและ พัดชา (ปจิตรา ภรณ์เจริญ) น้องสาวสุดห้าวของพายัพ ครั้งแรกที่เจอกันทั้งเรวดีและพยอมก็เปิดศึกเขม่นกันทันที จนพัดชาต้องรีบพาเรวดีไปยังบ้านหลังเล็กท้ายนาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย

จากคอนโดหรูต้องมาอยู่ในกระท่อมปลายนา เรวดีใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก คืนนั้นทำให้เธอนอนไม่หลับเลย แล้วจู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงก็อกแก็กจากด้านนอก หญิงสาวคว้าไม้ตีแขกไม่ได้รับเชิญไม่ยั้ง พัดชากับ จ้อน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกน้องคู่หูของพายัพได้ยินเสียงโวยวายจึงวิ่งมาดู เรวดีถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือนายพายัพนั่นเอง ! ทั้งคู่ต่างคิดว่าฝ่ายของตัวเองถูก เลยต่อปากต่อคำกันยืดยาว ทั้งสองจึงไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

เรวดีปลีกวิเวกจากบุคคลทั้งหมด เธอเลยคิดหาอะไรทำด้วยการไปเหมาซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องอำนวยความสะดวกมามากมาย เธอตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้าน รวมทั้ง ธัชชัย (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) นายอำเภอหนุ่มนิสัยดีที่ตกหลุมรักเรวดีตั้งแต่แรกเห็น แต่กลับเป็นพัดชาที่แอบชอบธัชชัยมานานแล้ว ต่อมาเรวดีเริ่มเงินร่อยหลอลง เธอจึงนำเสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังไปวางขายในหมู่บ้านในราคาย่อมเยาสุดๆ ทว่าไม่มีใครซื้อเลยสักคน เพราะทุกอย่างล้วนแต่เป็นของใช้ไม่จำเป็นสำหรับพวกเขา เมื่อพายัพรู้เรื่องที่เรวดีไม่มีเงินใช้ก็เกิดความเห็นใจ พายัพจึงแกล้งให้เงินพัดชาไปซื้อของ-ของเรวดีมาชิ้นหนึ่ง โดยที่ไม่บอกเรวดีว่ามันเป็นเงินของพี่ชาย แต่มันก็ทำให้เรวดีเริ่มเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น เธอจึงใช้เงินก้อนน้อยนี้อย่างประหยัดที่สุด..

พอเข้าช่วงดำนา เรวดีก็เห็นพวกชาวบ้านมาช่วยกันดำนา จึงเข้าไปพูดคุยด้วย ชาวบ้านเลยชวนเธอให้กินข้าวริมคันนาด้วยกัน เรวดีทนกินไม่ได้จึงขอตัวออกไป พายัพเห็นเข้าก็เลยแกล้งพูดท้าทาย และได้ผล...คนอย่างเรวดีที่ไม่ชอบให้ใครท้า จึงนั่งกินข้าวกับพวกชาวบ้าน หนำซ้ำยังเปิบด้วยมือโชว์พายัพด้วย หลังจากนั้นเรวดีก็ติดใจการนั่งกินข้าวริมคันนาจนต้องมานั่งกินแทบทุกวัน 

วันหนึ่งพายัพพูดจายียวนจนเรวดีโกรธเดินลุยนาเข้าไปต่อว่าเขา ทำให้เธอลื่นล้ม ลุกขึ้นก็ไม่ได้ พายัพจึงช่วยจับมือประคองขึ้น แล้วทันใดนั้น ใบบัว (เพชรลดา เทียมเพชร) ลูกสาวสุดเปรี้ยวของ เสี่ยบุญมี (เกริก ชิลเลอร์) พ่อค้าหน้าเลือดประจำหมู่บ้าน ที่หมายตาพายัพมานานเกิดมาเห็นเข้าพร้อมกับ ส้มจี๊ด (หมวย ชวนชื่น) ลูกน้องคู่ใจ ก็ตรงเข้าไปหาเรื่องเรวดี โดยมีตุ่น (ธเนศ ภูผานี) ลูกน้องของเสี่ยเป็นตัวช่วย เรวดีเองก็ไม่ยอมจึงปะทะตบตีกัน แต่เมื่อสู้เรวดีไม่ได้ ใบบัวเลยนำเรื่องนี้ไปฟ้องพยอมพร้อมป้ายสีว่าเรวดีให้ท่าพายัพ ทำให้พยอมไม่สบายใจ เรียกพายัพมาต่อว่าและสั่งห้ามไม่ให้คว้าผู้หญิงอย่างเรวดีมาทำเมีย แต่พายัพก็ยืนยันว่าระหว่างเขากับเรวดีเป็นไปไม่ได้

เช้าวันหนึ่งเรวดีลงไปช่วยชาวบ้านขุดลอกคลอง และจับปลาแข่งกับใบบัว จนทำให้ลื่นล้มขาแพลง จนพายัพเองก็มาคอยดูแลโดยอ้างว่าทำเพื่อจรัญ แต่แท้จริงเป็นเพราะใจของเขาอยากมาเองมากกว่า ส่วนจ้อนคิดอยากรู้ว่าเจ้านายมีใจให้เรวดี จึงช่วยกันใบบัวและส้มจี๊ดไม่ให้ไปเป็นก้างขวางคอ เท่านั้นไม่พอจ้อนยังเก็บดอกไม้ไปให้เรวดีและบอกว่าพายัพฝากมา แต่ข้างในดอกไม้มีตัวผึ้งอยู่ข้างใน ! เรวดีตกใจกระโดดหนีผึ้งเสียจนล้มกับพื้นขาแพลงหนักเข้าไปอีก เหตุการณ์นี้ทำให้เรวดีถึงกับไปไหนไม่ได้ พายัพจึงชวนเรวดีทำกิจกรรมต่างๆ แก้เบื่อ ทั้งสองได้พูดคุยกันแต่ก็ไม่วายต่อปากต่อคำกันอยู่ดี ความใกล้ชิดกันของทั้งคู่ ทำให้พายัพสุขใจ ในขณะที่เรวดีเริ่มหลงใหลที่นี่แล้ว

เมื่อที่นาทุกที่ดำนาเสร็จ ช่วงรอให้ต้นข้าวโต พวกชาวบ้านก็เตรียมพากันเข้าไปเป็นคนใช้แรงงานในเมืองหลวงตามคำชวนของเสี่ยบุญมี พายัพไม่อยากให้ชาวบ้านไป เขาจึงปรึกษากับธัชชัย เรวดีก็ช่วยออกความเห็นว่าควรมีรายได้เสริมให้ชาวบ้าน โดยนำสินค้าที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลง จากการทำสินค้าสมุนไพร พวกยานวด ยาดม แบบเดิม เรวดีจึงช่วยออกแบบแพคเกจใหม่ วิธีส่งเสริมการขายและพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ ดัดแปลงให้ชาวบ้านรู้จักนวดแบบสปา จนทำให้เพื่อนชาวต่างชาติของพายัพประทับใจและสั่งซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่างประเทศ พวกชาวบ้านดีใจที่จะมีรายได้กันแล้วเลยพากันขอบคุณเรวดีกันยกใหญ่ 

พยอมเริ่มเห็นคุณงามความดีและความตั้งใจที่เรวดีทำเพื่อหมู่บ้าน แต่ด้วยทิฐิและความที่ตัวเองเคยเป็นผู้นำมาก่อนแต่ชาวบ้านยังไม่ชื่นชมเท่ากับเรวดี ทำให้เธอไม่พอใจ... เรวดีเข้ามาดูแลงานผลิตทั้งหมด โดยมีธัชชัยกับพัดชาเป็นผู้ช่วย แต่เมื่อธัชชัยทราบว่าเรวดีเป็นคนรักของจรัญ ก็มีอาการเศร้าไป เรวดีสังเกตเห็นพัดชาดูเป็นห่วงเป็นใยธัชชัยมาก ก็รู้ว่าพัดชาหลงรักธัชชัย จนช่วยจับพัดชาโมดิฟายใหม่เป็นสไตล์เกาหลี แต่ทุกคนลงความเห็นว่าพัดชาแต่งเหมือนเดิมจะเข้าท่ากว่า พัดชาเลยเสียความมั่นใจ แล้วเธอบังเอิญเห็นธัชชัยบอกรักเรวดี และเรวดีก็จับมือธัชชัย พัดชาเข้าใจผิดคิดว่าเรวดีหักหลังเธอ ทั้งๆ ที่เรวดีจับมือธัชชัยเพื่อปลอบใจเขาต่างหาก 

หลังจากวันนั้นพัดชาก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมกินข้าวกินปลา จนพายัพเป็นห่วงจึงคาดคั้นความจริง เมื่อรู้เรื่องก็เข้าไปต่อว่าเรวดีที่หักหลังน้องสาวและยังทรยศจรัญอีก เรวดีเลยได้รู้ว่าพายัพคิดว่าเธอกับจรัญเป็นอะไรกัน เธอก็รีบปฏิเสธแต่พายัพไม่เชื่อและยังต่อว่าเธออย่างรุนแรง คำพูดจากปากของพายัพถึงทำให้เธอเสียใจมาก นั่นเป็นเพราะเธอรักพายัพเข้าแล้วโดยไม่รู้ตัว แต่เรวดีต่อว่าพายัพกลับ ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง พายัพโกรธมากคว้าตัวเรวดีมาจูบ เรวดีเสียใจมากจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ โดยลืมไปว่าเธอเป็นหัวเรือใหญ่ในการทำสมุนไพรของชาวบ้าน... ต่อมาเมื่อจรัญบอกให้พายัพรู้ความจริงว่าเรวดีมาอยู่ที่บ้านนาในฐานะพยานเพื่อหลบภัย แล้วก็เป็น ไปอย่างที่คิด เรวดีกลับมาที่คอนโดเธอก็ถูกลอบยิง แต่โชคดีที่พายัพมาช่วยไว้ได้ทัน พายัพเข้าใจเรื่องทั้งหมดและขอโทษเธอ เมื่อทั้งสองเข้าใจกันแล้วพายัพก็พาเรวดีกลับหมู่บ้าน คืนนั้นเรวดียังกลัวกับเหตุการณ์ถูกไล่ยิง ทำให้พายัพนอนเป็นเพื่อนเธอที่บ้านทั้งคืน ทำเอาชาวบ้านเม้ากันหึ่งว่าพายัพกับเรวดีได้สียเป็นผัว-เมียกัน ! ทำให้พายัพตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเรวดี.... 

เมื่อเรวดีกับพายัพแต่งงานกัน เธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ แล้วสงครามแม่ผัว-ลูกสะใภ้ก็เกิดขึ้น โดยมีใบบัวเป็นกองกำลังหนุนหลังพยอมคอยหาเรื่องโจมตีเรวดี ...ต่อมาพวกชาวบ้านจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ และขอบคุณเรวดีที่ช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พัดชากับพายัพก็ลากพยอมให้มาร่วมงานด้วย แต่พยอมไม่ค่อยชอบใจนัก จึงประชดซดเหล้าขาวเสียเมาแอ่น แล้วเดินเซออกไปถึงโกดังเก็บสินค้าจนพับหลับไป ฝ่ายเรวดีที่เห็นที่ต้องการจะตามมาเพื่อปรับความเข้าใจกับพยอม แต่เรวดีเห็นว่าไฟไหม้โกดังซึ่งพยอมยังติดอยู่ข้างใน เธอตัดสินใจลุยฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยพยอมออกมาได้ ทำให้พยอมเปิดใจกับเรวดีตั้งแต่นั้นมา 

เหตุการณ์เพลิงไหม้ทำให้สินค้าที่จะส่งไปต่างประเทศเสียหาย ทั้งหมดจึงร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำสินค้าใหม่ขายเพื่อขายในประเทศแทน เมื่อสินค้าเสร็จเรวดีก็คิดทำแผนจับผู้ร้ายวางเพลิงด้วยการแกล้งประกาศว่าสินค้าทั้งหมดจะออกขายต่างประเทศ แล้วก็เป็นไปตามแผนเมื่อมีผู้ร้ายจะมาลอบเผาสินค้าอีก จึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนการของเสี่ยบุญมีและใบบัว ตอนแรกพวกชาวบ้านจะให้จับสองพ่อ-ลูกและลูกน้องส่งตำรวจ แต่เรวดีให้โอกาสพวกของเสี่ยบุญมีนำสินค้าของหมู่บ้านไปขายให้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ พวกเสี่ยบุญมีจึงช่วยกันเร่ขายสินค้าไปตามหมู่บ้านอื่นๆ จนไปพบลูกน้องของอำนาจกำลังตามหาเรวดี ใบบัวกับส้มจี๊ดที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็เป็นคนบอกว่าเรวดีอยู่ที่หมู่บ้านของตัวเอง อำนาจจึงสั่งให้ลูกน้องไปจัดการฆ่าปิดปากเรวดีทันที 

พวกลูกน้องอำนาจจึงจู่โจมเข้าจับตัวเรวดีแล้วพาเข้าป่าไป พอพวกชาวบ้านรู้เรื่องเข้าก็แห่กันไปช่วยเรวดีนำทีมโดยพยอม แล้วพายัพก็ตามไปช่วยเรวดีมาได้ พวกชาวบ้านก็ช่วยกันจับคนร้ายเอาไว้ได้หมด แต่พัดชาที่เห็นว่าธัชชัยจะถูกยิงก็เลยกระโดดรับลูกกระสุนให้แทน ทำให้ธัชชัยซึ้งใจในความรักที่หญิงสาวมีให้เขา เรวดีทนไม่ได้อีกต่อไปที่จะต้องเห็นใครเจ็บตัวเพราะเรื่องของเธออีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจจะกระชากหน้ากากรัฐมนตรีอำนาจให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย เรวดีจึงเข้ากรุงเทพฯ เดินหน้าสู้กับความถูกต้อง โดยมีพายัพและพวกชาวบ้านเป็นเกราะกำบังให้หญิงสาว และจากหลักฐานทั้งหมดทำให้อำนาจถูกดำเนินคดีเข้าคุกได้ในที่สุด จรัญได้เลื่อนยศสูงขึ้น ส่วนเรวดีก็มีชื่อเสียงโด่งดังได้ไปออกรายการทีวีสัมภาษณ์เรื่องอำนาจ แต่เรวดีไม่ค่อยพูดเรื่องอำนาจสักเท่าไหร่ เธอกลับนำสินค้าสมุนไพรซึ่งตอนนี้มีหน้าเธอปรากฏเป็นพรีเซนเตอร์อยู่บนกล่องไปโฆษณาขายในรายการจนสินค้าของหมู่บ้าน ‘บ้านดอน’ มีชื่อเสียงโด่งดัง 

แล้ววันหนึ่งหลังจากออกรายการเสร็จ เพื่อนไฮโซสาวของเรวดีก็มาดักรอด้วยความคิดถึงและถามเรื่องที่เธอยอมไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนอกอย่างงั้น และไหนจะยังแต่งงานกับผู้ชายบ้านนอกอย่างพายัพ เรวดีเบื่อหน่ายที่จะพูดก็เลยตอบเลี่ยงๆ ไป แต่คำตอบนั้นมันกลับทำให้พายัพที่ได้ยินเข้าแล้วเข้าใจผิดคิดว่าเรวดีไม่ได้รักเขาเลยสักนิด พายัพจึงบอกให้เรวดีสบายใจว่าถ้าเธออยากจะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ อยู่ในโลกของเธอก็ตามใจ เขายินดีจะบอกทุกคนให้รู้เองว่าเรื่องแต่งงานเป็นแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น เรวดีเสียใจคิดว่าชายหนุ่มไม่ใยดีเธอเลย เธอจึงตัดสินใจกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

เมื่อไม่มีเรวดีอยู่ในหมู่บ้าน ทุกอย่างก็ดูเงียบเหงา รวมทั้งพายัพด้วยที่เอาแต่อยู่ในบ้านเล็กและนั่งมองผ้าพันคอของเรวดีด้วยความเศร้า ใบบัวใช้โอกาสสุดท้ายปลุกป้ำพายัพเพื่อหวังรักษาแผลใจ แต่เธอกลับหลงไปได้เสียกับจ้อนแทน จ้อนจึงต้องรับผิดชอบใบบัวด้วยการแต่งงานและสารภาพว่าเขารักเธอมานานแล้ว ใบบัวก็เลยยอมใจอ่อนเลยตามเลยไป

ส่วนพัดชากับธัชชัยที่ตอนนี้รักกันแล้วเห็นความเงียบเหงาของหมู่บ้านและเห็นท่าทางเศร้าสร้อยของพายัพก็เลยตัดสินใจร่วมมือกันทำแผนด้วยการโกหกเรวดีว่าพยอมป่วยหนัก เรวดีจึงกลับ มาเยี่ยมพยอม พัดชา ธัชชัยจึงหลอกเอาตัวเรวดีกับพายัพไปขังไว้ในบ้านหลังเล็กท้ายนา ทั้งสองได้อยู่กันตามลำพังจึงได้เผยความรู้สึกที่มีต่อกัน แล้วเรวดีก็ยืนยันว่าโลกของเธอคือที่นี่ ...คือที่ๆ มีพายัพ พายัพก็สารภาพว่ารักเรวดีมาก ทั้งสองจึงตกลงกันได้และหมู่บ้าน ‘บ้านดอน’ ก็ได้ต้อนรับเรวดีคืนสู่บ้านนาอีกครั้ง...

เรยา ภาคพิสดาร ใน"ดอกทองสีส้ม"

เรยา ภาคพิสดาร ใน ดอกทองสีส้ม


วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เรือนหอรอเฮี้ยน


ในปี พุทธศักราช 2453 หลวงบวรสงคราม (รวิชญ์ เทิดวงส์) ได้วางแผนกับชาวต่างชาติเพื่อยึดแผ่นดินไทยแต่ถูกจับได้จึงพาพวกหลบหนีโดยชิงตัว หม่อมเจ้ามาลา (สุษิรา แอนจิลีน่า) ท่านหญิงที่หลวงบวรสงครามเตรียมการแต่งงานไปด้วย หม่อมเจ้ามาลาหมดรักหลวงสงครามแล้วเพราะรู้ความจริงจึงฆ่าหลวงบวรสงครามและตนเองตายตามไป

ปีพุทธศักราช 2553 คฤหาสน์จันทราสุสานร้างกลางเขาที่สิงสถิตย์ของหลวงบวรสงครามและสมุนทั้งสอง กระทิง (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) และ กระทง (สุคนธวา เกิดนิมิตร) ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลงเพื่อดูการถ่ายทอดประกาศรางวัลดาวรุ่งดวงใหม่ และก็เฮสมดังคาด เมื่อ รัตติกาล (สุษิรา แอนจิลีน่า) นักแสดงสาวสวยดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำดีเด่นแห่งปี และ ตะวันฉาย (หลุยส์ สก๊อตต์) เป็นผู้ที่ได้หัวใจเธอไปครอบครองเพียงผู้เดียว ความรักของรัตติกาลกับตะวันฉายถูกกีดขวางจาก หาญกล้า (มนตรี เจนอักษร) พ่อของรัตติกาล และคุณหญิงภัทรา (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของตะวันฉาย

รัตติกาลกับตะวันฉายได้รับการความช่วยเหลือจาก พัดชา (โชติมา นวคุณากร) และ พิชญ์ (ภูดิศ สุริยวงศ์) เพื่อนสนิท กระทิงและกระทงพยายามทำร้ายรัตติกาลแต่ตะวันมาช่วยได้ทุกครั้ง ทำให้ความรักของเขายิ่งสุกงอมมากขึ้น คุณหญิงได้สั่งให้ตะวันแต่งงานกับ พิไลพร หรือ หนูดี (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) ตะวันจึงหาโอกาสที่จะแต่งงานและจัดเตรียมเรือนหอ โดยให้ ตะวันรอน (ภัทรภณ โตอุ่น) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องคอยขัดขวางหนูดี
ด้านหลวงบวรสงครามปลอมตัวเองเป็นมนุษย์ เพื่อเสนอภาพยนตร์ให้รัตติกาลเล่นเป็นนางเอกหวังจะเอาวิญญาณแต่ไม่สำเร็จ

ในวันที่รัตติกาลแต่งงานกับตะวันฉาย กระทงได้ปลอมตัวเป็นคนเพื่อให้รัตติกาลดื่มยาพิษและนำวิญญาณไปพร้อมกับนำร่างไปซ่อนไว้ที่คฤหาสน์ หลวงบวรสงครามได้พยายามให้รัตติกาลระลึกชาติที่แล้ว ส่วนตะวันตั้งใจมากตามหารัตติกาลที่คฤหาสน์ แต่คุณหญิงภัทรา ผู้เป็นแม่ไม่ยอม และยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างผู้หญิงที่ตายไปแล้วกับเรือนหอ ตะวันฉายจึงเลือกเรือนหอและยุติการค้นหาหวังว่าวันหนึ่งรัตติกาลจะกลับมาตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนแต่งงาน

รัตติกาลรู้ว่าปิ่นปักผมของหม่อมมาลาเป็นอาวุธที่หลวงบวรสงครามหวั่นกลัวจึงขโมยและหนีออกมาอยู่ที่เรือนหอและพยายามทำให้ตะวันรู้ว่าตนอยู่ โดยการเข้าสิงพัดชาเพื่อเตือนตะวันให้ระวังหลวงบวรสงคราม พิชญ์เสนอให้ใช้ปิ่นปักผมของหม่อมมาลาจัดการกับหลวงบวรสงคราม ตะวันจึงไปตามหาร่างของรัตติกาลที่ป่าจันทรา ตะวันเกือบจะถูกหลวงบวรฆ่าตายรัตติกาลจึงตัดสินใจมาช่วยจนวิญญาณจะสลายต้องรีบกลับสู่ร่าง

รัตติกาลจะกลับเข้าสู้ร่างได้ทันเวลาหรือไม่ และจะได้แต่งงานกับ ตะวันฉาย หรือไม่ ต้องติดตามชม ละครเรือนหอรอเฮี้ยน ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเรือนหอรอเฮี้ยน เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม ศกนี้

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Gal Gadot สาวฮ๊อตเซ็กซี่จาก The fast and the furious

Gal Gadot เป็นชาวอิสราเองเกิดเมื่อ 30 เมษายน  1985 มีอาชีพเป็นทั้งนักแสดงและนางแบบ ในปี2004 เธอสามารถคว้ามงกุฎนางงามแห่งอิสราเอลและเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล และในปี 2007 ก็ถ่ายภาพลงใน MAXIM ในชุดสาวแห่งกองทัพอิสราเอล ในด้านการแสดงก่อนรับงานเรื่อง Fast & Furious เธอมีผลงานภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ของอิสราเอลเรื่อง Bubotและใน Fast & Furious เธอรับบท จีเซล สาวที่อยู่ในโลกใต้ดิน โลกแห่งอาชญากรรมค้ายาเสพติด ก่อนกลับใจมาช่วยพระเอกอย่าง ดอม โตเรตโต้ (วีน ดีเซล) ในการตามล่าผู้ร้ายที่เม็กซิโก (ต้องอย่างนี้ซิ ถ้ามีภาพต่อจะได้เห็นหน้าอีก) ถ้าใครได้ชม Fast & Furious แล้วคงได้เห็นว่า Gal Gadot สวยเพียงใด




































วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"เรยา" จากละคร ดอกส้มสีทอง ออกรายการ เจาะข่าวเด่นกับสรยุธ


หลังจากที่ละคร ดอกส้มสีทอง กลายเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์มาระยะหนึ่ง จนกระทรวงวัฒนธรรมต้องออกมาขอให้ปรับบทละคร เพราะกลัวเยาวชนจะเลียนแบบ

"ชมพู่" อารยา เอฮาร์เก็ต เจ้าของบทบาท "เรยา" จากละครดังเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ได้ให้สัมภาษณ์ออกอากาศในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "สรยุทธ เจาะข่าวเด่น" เมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยเจ้าตัวเปิดเผยถึงกระแสของ "เรยา" ในเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ว่าละครเรื่องนี้ผู้จัดนำเสนอด้วยความหวังดี และเป็นการสะท้อนความเป็นจริงในสังคม พร้อมกับแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ไม่อยากให้ตัดฉากบางตอนออกจากละครไป เนื่องจาก บทพูดของตัวละครสะท้อนแทนผู้หญิงทั้้งโลกได้

"ก็เสียดายค่ะ เพราะทุกฉากแฝงไปด้วยคุณค่าและคติที่สอนคนได้ ทุกๆพยางค์ของบทมันพูดแทนผู้หญิงทั้งโลก สะท้อนความเป็นจริง และสะท้อนความรู้สึกลึกๆ พูดแทนคนที่อยู่ในสภาวะนั้นจริงๆ ส่วนตัวแล้วเคยมีคนที่เคยเป็นเมียน้อยมาบอกว่า ประโยคที่เรยาพูดนั้นเขาเคยพูดมาหมดแล้ว บางคำอาจฟังดูแรงแต่มันคือความจริง" ชมพู่ กล่าวกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรคนดังประจำรายการด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

สำหรับประเด็นร้อนเรื่องความเหมาะสมของฉากบางฉากที่อาจดูรุนแรงอย่างเช่น ฉากเด่นในเรื่องที่ "เรยา" ระเบิดอารมณ์ใส่แม่บังเกิดเกล้าอย่างหนักหน่วง รวมไปถึงฉากรักอันเร่าร้อนทั้งหลายว่า "ที่เล่นไปก็เล่นแบบเต็มที่ ชมว่า คนดูน่าจะรู้ว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าจะเลียนแบบ บางทีการจะบอกคนว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่ใช่แค่เอา สีขาว ไปให้เขาดู บางทีก็ต้องให้เห็น สีดำ ด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จักว่าอะไรดี อะไรชั่ว"

"บางทีก็ต้องให้เห็นว่าอะไรดี ไม่ดี เพียงแต่ว่าด้านที่ไม่ดีก็ทำให้เห็นว่าแบบนี้ไม่ควรเอาอย่าง ซึ่งการที่เล่นแรงนั้น มันก็ต้องถ่ายทอดให้ได้" ชมพู่กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนจะจบรายการ สรยุทธ ยังทดลองสัมผัสกับบทบาทของเรยากับตัวเองด้วย

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เคหาสน์สีแดง


เคหาสน์สีแดง
นำแสดงโดย แอนดริว เกรกสัน
มินท์ ณัฐวรา

เมื่อ พลตรีพลแสนเสนีณรงค์ พ่อของ รุจ รับ อัมพา ภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในเคหาสน์สีแดง ทำให้รุจโกรธ จนหนีไปศึกษาแพทย์ที่ต่างประเทศ 15 ปี จนพลตรีพลแสนเสนีณรงค์เสียชีวิตกะทันหัน รุจต้องทิ้งคู่รัก เสาวรส กลับมาที่เคหาสน์สีแดง แม่ ๆ ทั้ง 3 แม่ละม่อม แม่พร้อม และ แม่พิน ต่างดีใจที่ได้ดูแลคุณหนูของตัวเองอีกครั้ง แต่ อารยา บุคคลแปลกหน้า ลูกสาวของอัมพาผู้หญิงที่เขาเกลียด ก็เพิ่มความชิงชังที่จะต้องอยู่บ้านเดียวกัน ภายใต้สุภาพบุรุษของรุจเต็มไปด้วยวาจาถากถาง ทำให้อารยาอึดอัดที่อยู่บ้านเดียวกับเขา ถ้าไม่ได้แม่ทั้งสามให้ความอบอุ่น รวมถึงเพื่อนบ้านพนาเวสที่แสนดี ทั้ง คุณนายพนาเวส วัฒนา และ ชาลี โดยเฉพาะชาลีที่รักอารยามาก

รุจทำงานจนไม่สนใจสมบัติหรือ เสารส ในวงสังคมเธอได้พบ ภาคินัย ผู้มีสมบัติมากมายที่ไร่รวงผึ้ง แต่ ภคินี น้องสาวภาคินัย กลัวจะมาหลอกพี่ชายคนซื่อ เสาวรสไม่รู้ความทุกข์ใจของรุจที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับอารยากระทั่ง ขุนประจญคดี ปรากฎตัวขึ้นพร้อมจดหมายที่บิดาให้รุจแต่งงานกับอารยา รุจปฏิเสธ ด้วยความเกลียดและคอยเยอะหยันอารยา โดยมี ยายจ้วน คอยเติมเชื้อไฟความเกลียดให้รุจ

วันหนึ่งรุจรักษา นายชาญ เป็นหัวขโมย สุดท้ายไม่รอด นายชิด พ่อชาญโกรธแค้น จึงจะฆ่ารุจกลางดึกและประกาศตัวว่าเป็นผัวเก่าของอัมพา แม่เลี้ยงของรุจ อารยาตื่นขึ้นรู้ถึงเรื่องของแม่ และเจอรุจด่าซ้ำ จนสลบไป รุจเห็นจึงโอบเธอไว้ ด้วยจรรยาแพทย์ หรือเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ทำให้เขาขออารยาแต่งงาน อารยาไม่เข้าใจ จึงหนีออกจากเคหาสน์สีแดง เธอยอมทนลำบากข้างนอกดีกว่าทนอยู่กับรุจ

อารยาป่วยและได้ ฉลวย พยาบาลที่แอบรักหมอรุจคอยช่วยเหลือ ทั้งสิงจึงสนิทกัน ระหว่างนั้นอารยาติดต่อให้ชาลีหางานให้ แต่ก็ได้แค่ไปทำงานกับเพื่อนที่ชาลีรู้จักเท่านั้น เสาวรสเห็นรุจเฝ้าแต่ห่วงหาถึงอารยา เธอไม่ปล่อยโอกาส จึงตัดสินใจสลัดรักภาคินัย มาดหมายหวังเป็นนายหญิงแห่งเคหาสน์สีแดงให้ได้

รุจได้ข่าวอารยาจาก กิจจา เพื่อนนายแพทย์และฉลวย เขารีบไปโรงพยาบาล แต่ นารี พยาบาลสาวบอกว่าอารยาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เพื่อนของชาลีที่อยู่เมืองยอกคือภาคินัย อารยามาทำงานดูแลภคินีที่ประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพาต ทุกคนที่ไร่รวงผึ้งชอบอารยา โดยเฉพาะภาคินัยที่ถูกเสารสตัดเยื่อใย เขาหลงรักอารยา จนกระทั่งเสารส และพ่อ พระศัลยแพทย์พิสุทธิ์ มาที่ไร่รวงผึ้ง พอเสารสได้พบอารยา แผนก็ได้เริ่มขึ้น เสาวรสแนะนำภาคินัยว่าให้หมอรุจมารักษาภคินี

เมื่อเดินทางมาถึงไร่รวงผึ้ง รุจพบภาคินัยและอารยาสนิทสนมกัน ทำให้เขาอารมณ์เสีย รุจจึงบังคับให้อารยากลับเคหาสน์สีแดง และแต่งงานกับเขา แต่ไม่ใช่เพราะความรักเป็นเพียงความสงสารอารยา อารยาไม่ยอม ภาคินัยอยากแต่งงานกับอารยา เขาจึงไปขอกับหมอรุจ ทำให้เสารสผิดหวังจากชายสองคน เสาวรสแค้นมาก เธอต้องการฆ่าภาคินัย ภาคินัยถูกดักยิงบาดเจ็บสาหัส อารยาตามแพทย์มาช่วย เสาวรสห้ามพ่อไม่ให้ไปรักษาภาคินัย

อารยาไปหา ประพัฒน์ แต่เขาล้มป่วยอยู่ ชาวบ้านบอกมีหมออีกคน พอไปพบกลับเป็นหมอรุจ รุจพบอารยาอีกครั้งในสถานการณ์ที่อยู่บนเส้นด้ายแห่งชีวิตของ ภาคินัย และความแค้นที่เพิ่มขึ้นของเสาวรสที่มีต่ออารยา ใครกันจะได้รักคืนและเป็นเจ้าของเคหาสน์แห่งรัก
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...