วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เอรี่่ ประสบการณ์ข้ามแดน


เรื่องราวของชีวิตหญิงสาวคนหนึ่งที่เจอเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านิยาย
ธนัดดา สว่างเดือน หรือเอรี่ เธอเขียนเล่าเรื่องของตัวเอง ผ่านหนังสือ ฉันคือเอรี่ ประสบการณ์ข้ามแดน
หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัล ชมนาดระดับดีเด่น ซึ่งเป็นรางวัลเพื่อนักเขียนซึ่งมีประโยชน์ต่อสังคม


รายการเจาะใจ สัมภาษณ์ เอรี่








วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกรรม ตอน เด็กหญิงข้างสระ - สายป่าน , อเล็ก เรนเดลล์

บันทึกกรรม
ตอน เด็กหญิงข้างสระ
นักแสดง
สายป่าน อภิญญา
อเล็ก เรนเดลล์

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เลดี้บ้านนา



อั๋น วิทยา - เลดี้บ้านนา

วิคกี้ สุนิสา เจท - เลดี้บ้านนา


เรวดี หรือ ดีดี้ (สุนิสา เจทท์) สาวสวยไฮโซโปรไฟล์ดีเลิศ และร่ำรวยจากทรัพย์สมบัติมากมายที่บิดาและมารดาซึ่งเสียชีวิตแล้วทิ้งเอาไว้ให้ วันหนึ่งเธอได้ไปร่วมเดินแบบในงาน “ลดโลกร้อน” ซึ่งเธอต้องการจะฉีกหน้าเพื่อนไฮโซที่มาเดินแบบร่วมกัน เลยฉีกชุดเพื่อเผยให้เห็นสร้อยเพชรเซ็ตใหญ่ พร้อมกับถอดออกบริจาคให้กับงานครั้งนี้ เรวดีจึงกลายเป็นดาวเด่นของงานขึ้นมาในพริบตา เธอกลับออกจากงานด้วยความสะใจและมีความสุขอย่างยิ่ง แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพบกับโชคร้าย เมื่อเธอเกิดไปเห็นเหตุการณ์เลขาของท่าน อำนาจ ผู้มีอิทธิพลชื่อดังถูกฆ่าปิดปาก อำนาจจึงสั่งให้ ยศ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) มือปืนข้างกายออกไล่ล่า ดีดี้ก็เลยต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน แต่โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจาก จรัญ (ณัฐนันท์ จันทร์วิโรจน์) ตำรวจหนุ่มผู้ทำคดีนี้ แต่ไม่นานนักพวกของอำนาจเห็นดีดี้ ตามสื่อต่างๆ ก็รู้ว่าเธอคือคนที่เห็นการฆาตกรรมนั่นเอง.. 

เรวดีตั้งใจจะไปแจ้งความเรื่องอำนาจให้ได้ แต่จรัญห้าม เพราะหัวหน้าใหญ่มีเส้นสายวงในยากที่จะเอาผิดได้ง่ายๆ ต้องรอหาหลักฐานให้แน่นหนาเสียก่อน และขอให้พยานปากเอกอย่างเธอหลบไปเก็บตัวเพื่อความปลอดภัย ถึงแม้ตอนแรกเธอจะไม่เชื่อ ทว่าดีดี้ถูกไล่ยิงกลางเมืองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้เรวดีเริ่มตระหนักแล้วว่าชีวิตของเธอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เธอจึงยอมไปอยู่ในที่-ที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของจรัญ นั่นคือ หมู่บ้าน “บ้านดอน” หนึ่งในอำเภอไกลแสนไกลของ พายัพ (วิทยา วสุไกรไพศาล) เพื่อนสนิทของเขา ที่เป็นที่รักของชาวบ้านทุกคน 

เมื่อคนรวยอย่างดีดี้ต้องไปอยู่บ้านต่างจังหวัด เธอก็คิดไปเองว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่สวยงาม มีบ้านสไตล์ยุโรปตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวขจี มีลำธารน้ำใสไหลผ่าน มีแกะขนสีขาวปุยเต็มทุ่ง เธอจึงขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบรนด์เนมไปหลายใบ แต่จรัญกลับพาเธอนั่งรถทัวร์แทนนั่งรถส่วนตัว แถมยังต้องขนกระเป๋าราคาแพงขึ้นรถสองแถวแดง เพื่อขับฝ่าถนนลูกรังไปอีกไกลจนถึง ‘บ้านดอน’ 

เมื่อมาถึง จรัญก็พาเรวดีไปบ้านของพายัพซึ่งเป็นแค่บ้านไม้สองชั้นสุดแสนธรรมดา ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งคู่ยังไม่ได้พบกับพายัพ พบแต่ พยอม (ดวงตา ตุงคะมณี) มารดาและ พัดชา (ปจิตรา ภรณ์เจริญ) น้องสาวสุดห้าวของพายัพ ครั้งแรกที่เจอกันทั้งเรวดีและพยอมก็เปิดศึกเขม่นกันทันที จนพัดชาต้องรีบพาเรวดีไปยังบ้านหลังเล็กท้ายนาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย

จากคอนโดหรูต้องมาอยู่ในกระท่อมปลายนา เรวดีใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก คืนนั้นทำให้เธอนอนไม่หลับเลย แล้วจู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงก็อกแก็กจากด้านนอก หญิงสาวคว้าไม้ตีแขกไม่ได้รับเชิญไม่ยั้ง พัดชากับ จ้อน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกน้องคู่หูของพายัพได้ยินเสียงโวยวายจึงวิ่งมาดู เรวดีถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือนายพายัพนั่นเอง ! ทั้งคู่ต่างคิดว่าฝ่ายของตัวเองถูก เลยต่อปากต่อคำกันยืดยาว ทั้งสองจึงไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

เรวดีปลีกวิเวกจากบุคคลทั้งหมด เธอเลยคิดหาอะไรทำด้วยการไปเหมาซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องอำนวยความสะดวกมามากมาย เธอตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้าน รวมทั้ง ธัชชัย (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) นายอำเภอหนุ่มนิสัยดีที่ตกหลุมรักเรวดีตั้งแต่แรกเห็น แต่กลับเป็นพัดชาที่แอบชอบธัชชัยมานานแล้ว ต่อมาเรวดีเริ่มเงินร่อยหลอลง เธอจึงนำเสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังไปวางขายในหมู่บ้านในราคาย่อมเยาสุดๆ ทว่าไม่มีใครซื้อเลยสักคน เพราะทุกอย่างล้วนแต่เป็นของใช้ไม่จำเป็นสำหรับพวกเขา เมื่อพายัพรู้เรื่องที่เรวดีไม่มีเงินใช้ก็เกิดความเห็นใจ พายัพจึงแกล้งให้เงินพัดชาไปซื้อของ-ของเรวดีมาชิ้นหนึ่ง โดยที่ไม่บอกเรวดีว่ามันเป็นเงินของพี่ชาย แต่มันก็ทำให้เรวดีเริ่มเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น เธอจึงใช้เงินก้อนน้อยนี้อย่างประหยัดที่สุด..

พอเข้าช่วงดำนา เรวดีก็เห็นพวกชาวบ้านมาช่วยกันดำนา จึงเข้าไปพูดคุยด้วย ชาวบ้านเลยชวนเธอให้กินข้าวริมคันนาด้วยกัน เรวดีทนกินไม่ได้จึงขอตัวออกไป พายัพเห็นเข้าก็เลยแกล้งพูดท้าทาย และได้ผล...คนอย่างเรวดีที่ไม่ชอบให้ใครท้า จึงนั่งกินข้าวกับพวกชาวบ้าน หนำซ้ำยังเปิบด้วยมือโชว์พายัพด้วย หลังจากนั้นเรวดีก็ติดใจการนั่งกินข้าวริมคันนาจนต้องมานั่งกินแทบทุกวัน 

วันหนึ่งพายัพพูดจายียวนจนเรวดีโกรธเดินลุยนาเข้าไปต่อว่าเขา ทำให้เธอลื่นล้ม ลุกขึ้นก็ไม่ได้ พายัพจึงช่วยจับมือประคองขึ้น แล้วทันใดนั้น ใบบัว (เพชรลดา เทียมเพชร) ลูกสาวสุดเปรี้ยวของ เสี่ยบุญมี (เกริก ชิลเลอร์) พ่อค้าหน้าเลือดประจำหมู่บ้าน ที่หมายตาพายัพมานานเกิดมาเห็นเข้าพร้อมกับ ส้มจี๊ด (หมวย ชวนชื่น) ลูกน้องคู่ใจ ก็ตรงเข้าไปหาเรื่องเรวดี โดยมีตุ่น (ธเนศ ภูผานี) ลูกน้องของเสี่ยเป็นตัวช่วย เรวดีเองก็ไม่ยอมจึงปะทะตบตีกัน แต่เมื่อสู้เรวดีไม่ได้ ใบบัวเลยนำเรื่องนี้ไปฟ้องพยอมพร้อมป้ายสีว่าเรวดีให้ท่าพายัพ ทำให้พยอมไม่สบายใจ เรียกพายัพมาต่อว่าและสั่งห้ามไม่ให้คว้าผู้หญิงอย่างเรวดีมาทำเมีย แต่พายัพก็ยืนยันว่าระหว่างเขากับเรวดีเป็นไปไม่ได้

เช้าวันหนึ่งเรวดีลงไปช่วยชาวบ้านขุดลอกคลอง และจับปลาแข่งกับใบบัว จนทำให้ลื่นล้มขาแพลง จนพายัพเองก็มาคอยดูแลโดยอ้างว่าทำเพื่อจรัญ แต่แท้จริงเป็นเพราะใจของเขาอยากมาเองมากกว่า ส่วนจ้อนคิดอยากรู้ว่าเจ้านายมีใจให้เรวดี จึงช่วยกันใบบัวและส้มจี๊ดไม่ให้ไปเป็นก้างขวางคอ เท่านั้นไม่พอจ้อนยังเก็บดอกไม้ไปให้เรวดีและบอกว่าพายัพฝากมา แต่ข้างในดอกไม้มีตัวผึ้งอยู่ข้างใน ! เรวดีตกใจกระโดดหนีผึ้งเสียจนล้มกับพื้นขาแพลงหนักเข้าไปอีก เหตุการณ์นี้ทำให้เรวดีถึงกับไปไหนไม่ได้ พายัพจึงชวนเรวดีทำกิจกรรมต่างๆ แก้เบื่อ ทั้งสองได้พูดคุยกันแต่ก็ไม่วายต่อปากต่อคำกันอยู่ดี ความใกล้ชิดกันของทั้งคู่ ทำให้พายัพสุขใจ ในขณะที่เรวดีเริ่มหลงใหลที่นี่แล้ว

เมื่อที่นาทุกที่ดำนาเสร็จ ช่วงรอให้ต้นข้าวโต พวกชาวบ้านก็เตรียมพากันเข้าไปเป็นคนใช้แรงงานในเมืองหลวงตามคำชวนของเสี่ยบุญมี พายัพไม่อยากให้ชาวบ้านไป เขาจึงปรึกษากับธัชชัย เรวดีก็ช่วยออกความเห็นว่าควรมีรายได้เสริมให้ชาวบ้าน โดยนำสินค้าที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลง จากการทำสินค้าสมุนไพร พวกยานวด ยาดม แบบเดิม เรวดีจึงช่วยออกแบบแพคเกจใหม่ วิธีส่งเสริมการขายและพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ ดัดแปลงให้ชาวบ้านรู้จักนวดแบบสปา จนทำให้เพื่อนชาวต่างชาติของพายัพประทับใจและสั่งซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่างประเทศ พวกชาวบ้านดีใจที่จะมีรายได้กันแล้วเลยพากันขอบคุณเรวดีกันยกใหญ่ 

พยอมเริ่มเห็นคุณงามความดีและความตั้งใจที่เรวดีทำเพื่อหมู่บ้าน แต่ด้วยทิฐิและความที่ตัวเองเคยเป็นผู้นำมาก่อนแต่ชาวบ้านยังไม่ชื่นชมเท่ากับเรวดี ทำให้เธอไม่พอใจ... เรวดีเข้ามาดูแลงานผลิตทั้งหมด โดยมีธัชชัยกับพัดชาเป็นผู้ช่วย แต่เมื่อธัชชัยทราบว่าเรวดีเป็นคนรักของจรัญ ก็มีอาการเศร้าไป เรวดีสังเกตเห็นพัดชาดูเป็นห่วงเป็นใยธัชชัยมาก ก็รู้ว่าพัดชาหลงรักธัชชัย จนช่วยจับพัดชาโมดิฟายใหม่เป็นสไตล์เกาหลี แต่ทุกคนลงความเห็นว่าพัดชาแต่งเหมือนเดิมจะเข้าท่ากว่า พัดชาเลยเสียความมั่นใจ แล้วเธอบังเอิญเห็นธัชชัยบอกรักเรวดี และเรวดีก็จับมือธัชชัย พัดชาเข้าใจผิดคิดว่าเรวดีหักหลังเธอ ทั้งๆ ที่เรวดีจับมือธัชชัยเพื่อปลอบใจเขาต่างหาก 

หลังจากวันนั้นพัดชาก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมกินข้าวกินปลา จนพายัพเป็นห่วงจึงคาดคั้นความจริง เมื่อรู้เรื่องก็เข้าไปต่อว่าเรวดีที่หักหลังน้องสาวและยังทรยศจรัญอีก เรวดีเลยได้รู้ว่าพายัพคิดว่าเธอกับจรัญเป็นอะไรกัน เธอก็รีบปฏิเสธแต่พายัพไม่เชื่อและยังต่อว่าเธออย่างรุนแรง คำพูดจากปากของพายัพถึงทำให้เธอเสียใจมาก นั่นเป็นเพราะเธอรักพายัพเข้าแล้วโดยไม่รู้ตัว แต่เรวดีต่อว่าพายัพกลับ ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง พายัพโกรธมากคว้าตัวเรวดีมาจูบ เรวดีเสียใจมากจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ โดยลืมไปว่าเธอเป็นหัวเรือใหญ่ในการทำสมุนไพรของชาวบ้าน... ต่อมาเมื่อจรัญบอกให้พายัพรู้ความจริงว่าเรวดีมาอยู่ที่บ้านนาในฐานะพยานเพื่อหลบภัย แล้วก็เป็น ไปอย่างที่คิด เรวดีกลับมาที่คอนโดเธอก็ถูกลอบยิง แต่โชคดีที่พายัพมาช่วยไว้ได้ทัน พายัพเข้าใจเรื่องทั้งหมดและขอโทษเธอ เมื่อทั้งสองเข้าใจกันแล้วพายัพก็พาเรวดีกลับหมู่บ้าน คืนนั้นเรวดียังกลัวกับเหตุการณ์ถูกไล่ยิง ทำให้พายัพนอนเป็นเพื่อนเธอที่บ้านทั้งคืน ทำเอาชาวบ้านเม้ากันหึ่งว่าพายัพกับเรวดีได้สียเป็นผัว-เมียกัน ! ทำให้พายัพตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเรวดี.... 

เมื่อเรวดีกับพายัพแต่งงานกัน เธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ แล้วสงครามแม่ผัว-ลูกสะใภ้ก็เกิดขึ้น โดยมีใบบัวเป็นกองกำลังหนุนหลังพยอมคอยหาเรื่องโจมตีเรวดี ...ต่อมาพวกชาวบ้านจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ และขอบคุณเรวดีที่ช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พัดชากับพายัพก็ลากพยอมให้มาร่วมงานด้วย แต่พยอมไม่ค่อยชอบใจนัก จึงประชดซดเหล้าขาวเสียเมาแอ่น แล้วเดินเซออกไปถึงโกดังเก็บสินค้าจนพับหลับไป ฝ่ายเรวดีที่เห็นที่ต้องการจะตามมาเพื่อปรับความเข้าใจกับพยอม แต่เรวดีเห็นว่าไฟไหม้โกดังซึ่งพยอมยังติดอยู่ข้างใน เธอตัดสินใจลุยฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยพยอมออกมาได้ ทำให้พยอมเปิดใจกับเรวดีตั้งแต่นั้นมา 

เหตุการณ์เพลิงไหม้ทำให้สินค้าที่จะส่งไปต่างประเทศเสียหาย ทั้งหมดจึงร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำสินค้าใหม่ขายเพื่อขายในประเทศแทน เมื่อสินค้าเสร็จเรวดีก็คิดทำแผนจับผู้ร้ายวางเพลิงด้วยการแกล้งประกาศว่าสินค้าทั้งหมดจะออกขายต่างประเทศ แล้วก็เป็นไปตามแผนเมื่อมีผู้ร้ายจะมาลอบเผาสินค้าอีก จึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนการของเสี่ยบุญมีและใบบัว ตอนแรกพวกชาวบ้านจะให้จับสองพ่อ-ลูกและลูกน้องส่งตำรวจ แต่เรวดีให้โอกาสพวกของเสี่ยบุญมีนำสินค้าของหมู่บ้านไปขายให้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ พวกเสี่ยบุญมีจึงช่วยกันเร่ขายสินค้าไปตามหมู่บ้านอื่นๆ จนไปพบลูกน้องของอำนาจกำลังตามหาเรวดี ใบบัวกับส้มจี๊ดที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็เป็นคนบอกว่าเรวดีอยู่ที่หมู่บ้านของตัวเอง อำนาจจึงสั่งให้ลูกน้องไปจัดการฆ่าปิดปากเรวดีทันที 

พวกลูกน้องอำนาจจึงจู่โจมเข้าจับตัวเรวดีแล้วพาเข้าป่าไป พอพวกชาวบ้านรู้เรื่องเข้าก็แห่กันไปช่วยเรวดีนำทีมโดยพยอม แล้วพายัพก็ตามไปช่วยเรวดีมาได้ พวกชาวบ้านก็ช่วยกันจับคนร้ายเอาไว้ได้หมด แต่พัดชาที่เห็นว่าธัชชัยจะถูกยิงก็เลยกระโดดรับลูกกระสุนให้แทน ทำให้ธัชชัยซึ้งใจในความรักที่หญิงสาวมีให้เขา เรวดีทนไม่ได้อีกต่อไปที่จะต้องเห็นใครเจ็บตัวเพราะเรื่องของเธออีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจจะกระชากหน้ากากรัฐมนตรีอำนาจให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย เรวดีจึงเข้ากรุงเทพฯ เดินหน้าสู้กับความถูกต้อง โดยมีพายัพและพวกชาวบ้านเป็นเกราะกำบังให้หญิงสาว และจากหลักฐานทั้งหมดทำให้อำนาจถูกดำเนินคดีเข้าคุกได้ในที่สุด จรัญได้เลื่อนยศสูงขึ้น ส่วนเรวดีก็มีชื่อเสียงโด่งดังได้ไปออกรายการทีวีสัมภาษณ์เรื่องอำนาจ แต่เรวดีไม่ค่อยพูดเรื่องอำนาจสักเท่าไหร่ เธอกลับนำสินค้าสมุนไพรซึ่งตอนนี้มีหน้าเธอปรากฏเป็นพรีเซนเตอร์อยู่บนกล่องไปโฆษณาขายในรายการจนสินค้าของหมู่บ้าน ‘บ้านดอน’ มีชื่อเสียงโด่งดัง 

แล้ววันหนึ่งหลังจากออกรายการเสร็จ เพื่อนไฮโซสาวของเรวดีก็มาดักรอด้วยความคิดถึงและถามเรื่องที่เธอยอมไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนอกอย่างงั้น และไหนจะยังแต่งงานกับผู้ชายบ้านนอกอย่างพายัพ เรวดีเบื่อหน่ายที่จะพูดก็เลยตอบเลี่ยงๆ ไป แต่คำตอบนั้นมันกลับทำให้พายัพที่ได้ยินเข้าแล้วเข้าใจผิดคิดว่าเรวดีไม่ได้รักเขาเลยสักนิด พายัพจึงบอกให้เรวดีสบายใจว่าถ้าเธออยากจะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ อยู่ในโลกของเธอก็ตามใจ เขายินดีจะบอกทุกคนให้รู้เองว่าเรื่องแต่งงานเป็นแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น เรวดีเสียใจคิดว่าชายหนุ่มไม่ใยดีเธอเลย เธอจึงตัดสินใจกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

เมื่อไม่มีเรวดีอยู่ในหมู่บ้าน ทุกอย่างก็ดูเงียบเหงา รวมทั้งพายัพด้วยที่เอาแต่อยู่ในบ้านเล็กและนั่งมองผ้าพันคอของเรวดีด้วยความเศร้า ใบบัวใช้โอกาสสุดท้ายปลุกป้ำพายัพเพื่อหวังรักษาแผลใจ แต่เธอกลับหลงไปได้เสียกับจ้อนแทน จ้อนจึงต้องรับผิดชอบใบบัวด้วยการแต่งงานและสารภาพว่าเขารักเธอมานานแล้ว ใบบัวก็เลยยอมใจอ่อนเลยตามเลยไป

ส่วนพัดชากับธัชชัยที่ตอนนี้รักกันแล้วเห็นความเงียบเหงาของหมู่บ้านและเห็นท่าทางเศร้าสร้อยของพายัพก็เลยตัดสินใจร่วมมือกันทำแผนด้วยการโกหกเรวดีว่าพยอมป่วยหนัก เรวดีจึงกลับ มาเยี่ยมพยอม พัดชา ธัชชัยจึงหลอกเอาตัวเรวดีกับพายัพไปขังไว้ในบ้านหลังเล็กท้ายนา ทั้งสองได้อยู่กันตามลำพังจึงได้เผยความรู้สึกที่มีต่อกัน แล้วเรวดีก็ยืนยันว่าโลกของเธอคือที่นี่ ...คือที่ๆ มีพายัพ พายัพก็สารภาพว่ารักเรวดีมาก ทั้งสองจึงตกลงกันได้และหมู่บ้าน ‘บ้านดอน’ ก็ได้ต้อนรับเรวดีคืนสู่บ้านนาอีกครั้ง...

เรยา ภาคพิสดาร ใน"ดอกทองสีส้ม"

เรยา ภาคพิสดาร ใน ดอกทองสีส้ม


วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เรือนหอรอเฮี้ยน


ในปี พุทธศักราช 2453 หลวงบวรสงคราม (รวิชญ์ เทิดวงส์) ได้วางแผนกับชาวต่างชาติเพื่อยึดแผ่นดินไทยแต่ถูกจับได้จึงพาพวกหลบหนีโดยชิงตัว หม่อมเจ้ามาลา (สุษิรา แอนจิลีน่า) ท่านหญิงที่หลวงบวรสงครามเตรียมการแต่งงานไปด้วย หม่อมเจ้ามาลาหมดรักหลวงสงครามแล้วเพราะรู้ความจริงจึงฆ่าหลวงบวรสงครามและตนเองตายตามไป

ปีพุทธศักราช 2553 คฤหาสน์จันทราสุสานร้างกลางเขาที่สิงสถิตย์ของหลวงบวรสงครามและสมุนทั้งสอง กระทิง (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) และ กระทง (สุคนธวา เกิดนิมิตร) ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลงเพื่อดูการถ่ายทอดประกาศรางวัลดาวรุ่งดวงใหม่ และก็เฮสมดังคาด เมื่อ รัตติกาล (สุษิรา แอนจิลีน่า) นักแสดงสาวสวยดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำดีเด่นแห่งปี และ ตะวันฉาย (หลุยส์ สก๊อตต์) เป็นผู้ที่ได้หัวใจเธอไปครอบครองเพียงผู้เดียว ความรักของรัตติกาลกับตะวันฉายถูกกีดขวางจาก หาญกล้า (มนตรี เจนอักษร) พ่อของรัตติกาล และคุณหญิงภัทรา (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของตะวันฉาย

รัตติกาลกับตะวันฉายได้รับการความช่วยเหลือจาก พัดชา (โชติมา นวคุณากร) และ พิชญ์ (ภูดิศ สุริยวงศ์) เพื่อนสนิท กระทิงและกระทงพยายามทำร้ายรัตติกาลแต่ตะวันมาช่วยได้ทุกครั้ง ทำให้ความรักของเขายิ่งสุกงอมมากขึ้น คุณหญิงได้สั่งให้ตะวันแต่งงานกับ พิไลพร หรือ หนูดี (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) ตะวันจึงหาโอกาสที่จะแต่งงานและจัดเตรียมเรือนหอ โดยให้ ตะวันรอน (ภัทรภณ โตอุ่น) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องคอยขัดขวางหนูดี
ด้านหลวงบวรสงครามปลอมตัวเองเป็นมนุษย์ เพื่อเสนอภาพยนตร์ให้รัตติกาลเล่นเป็นนางเอกหวังจะเอาวิญญาณแต่ไม่สำเร็จ

ในวันที่รัตติกาลแต่งงานกับตะวันฉาย กระทงได้ปลอมตัวเป็นคนเพื่อให้รัตติกาลดื่มยาพิษและนำวิญญาณไปพร้อมกับนำร่างไปซ่อนไว้ที่คฤหาสน์ หลวงบวรสงครามได้พยายามให้รัตติกาลระลึกชาติที่แล้ว ส่วนตะวันตั้งใจมากตามหารัตติกาลที่คฤหาสน์ แต่คุณหญิงภัทรา ผู้เป็นแม่ไม่ยอม และยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างผู้หญิงที่ตายไปแล้วกับเรือนหอ ตะวันฉายจึงเลือกเรือนหอและยุติการค้นหาหวังว่าวันหนึ่งรัตติกาลจะกลับมาตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนแต่งงาน

รัตติกาลรู้ว่าปิ่นปักผมของหม่อมมาลาเป็นอาวุธที่หลวงบวรสงครามหวั่นกลัวจึงขโมยและหนีออกมาอยู่ที่เรือนหอและพยายามทำให้ตะวันรู้ว่าตนอยู่ โดยการเข้าสิงพัดชาเพื่อเตือนตะวันให้ระวังหลวงบวรสงคราม พิชญ์เสนอให้ใช้ปิ่นปักผมของหม่อมมาลาจัดการกับหลวงบวรสงคราม ตะวันจึงไปตามหาร่างของรัตติกาลที่ป่าจันทรา ตะวันเกือบจะถูกหลวงบวรฆ่าตายรัตติกาลจึงตัดสินใจมาช่วยจนวิญญาณจะสลายต้องรีบกลับสู่ร่าง

รัตติกาลจะกลับเข้าสู้ร่างได้ทันเวลาหรือไม่ และจะได้แต่งงานกับ ตะวันฉาย หรือไม่ ต้องติดตามชม ละครเรือนหอรอเฮี้ยน ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเรือนหอรอเฮี้ยน เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม ศกนี้

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Gal Gadot สาวฮ๊อตเซ็กซี่จาก The fast and the furious

Gal Gadot เป็นชาวอิสราเองเกิดเมื่อ 30 เมษายน  1985 มีอาชีพเป็นทั้งนักแสดงและนางแบบ ในปี2004 เธอสามารถคว้ามงกุฎนางงามแห่งอิสราเอลและเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล และในปี 2007 ก็ถ่ายภาพลงใน MAXIM ในชุดสาวแห่งกองทัพอิสราเอล ในด้านการแสดงก่อนรับงานเรื่อง Fast & Furious เธอมีผลงานภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ของอิสราเอลเรื่อง Bubotและใน Fast & Furious เธอรับบท จีเซล สาวที่อยู่ในโลกใต้ดิน โลกแห่งอาชญากรรมค้ายาเสพติด ก่อนกลับใจมาช่วยพระเอกอย่าง ดอม โตเรตโต้ (วีน ดีเซล) ในการตามล่าผู้ร้ายที่เม็กซิโก (ต้องอย่างนี้ซิ ถ้ามีภาพต่อจะได้เห็นหน้าอีก) ถ้าใครได้ชม Fast & Furious แล้วคงได้เห็นว่า Gal Gadot สวยเพียงใด




































วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"เรยา" จากละคร ดอกส้มสีทอง ออกรายการ เจาะข่าวเด่นกับสรยุธ


หลังจากที่ละคร ดอกส้มสีทอง กลายเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์มาระยะหนึ่ง จนกระทรวงวัฒนธรรมต้องออกมาขอให้ปรับบทละคร เพราะกลัวเยาวชนจะเลียนแบบ

"ชมพู่" อารยา เอฮาร์เก็ต เจ้าของบทบาท "เรยา" จากละครดังเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ได้ให้สัมภาษณ์ออกอากาศในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "สรยุทธ เจาะข่าวเด่น" เมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยเจ้าตัวเปิดเผยถึงกระแสของ "เรยา" ในเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ว่าละครเรื่องนี้ผู้จัดนำเสนอด้วยความหวังดี และเป็นการสะท้อนความเป็นจริงในสังคม พร้อมกับแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ไม่อยากให้ตัดฉากบางตอนออกจากละครไป เนื่องจาก บทพูดของตัวละครสะท้อนแทนผู้หญิงทั้้งโลกได้

"ก็เสียดายค่ะ เพราะทุกฉากแฝงไปด้วยคุณค่าและคติที่สอนคนได้ ทุกๆพยางค์ของบทมันพูดแทนผู้หญิงทั้งโลก สะท้อนความเป็นจริง และสะท้อนความรู้สึกลึกๆ พูดแทนคนที่อยู่ในสภาวะนั้นจริงๆ ส่วนตัวแล้วเคยมีคนที่เคยเป็นเมียน้อยมาบอกว่า ประโยคที่เรยาพูดนั้นเขาเคยพูดมาหมดแล้ว บางคำอาจฟังดูแรงแต่มันคือความจริง" ชมพู่ กล่าวกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรคนดังประจำรายการด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

สำหรับประเด็นร้อนเรื่องความเหมาะสมของฉากบางฉากที่อาจดูรุนแรงอย่างเช่น ฉากเด่นในเรื่องที่ "เรยา" ระเบิดอารมณ์ใส่แม่บังเกิดเกล้าอย่างหนักหน่วง รวมไปถึงฉากรักอันเร่าร้อนทั้งหลายว่า "ที่เล่นไปก็เล่นแบบเต็มที่ ชมว่า คนดูน่าจะรู้ว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าจะเลียนแบบ บางทีการจะบอกคนว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่ใช่แค่เอา สีขาว ไปให้เขาดู บางทีก็ต้องให้เห็น สีดำ ด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จักว่าอะไรดี อะไรชั่ว"

"บางทีก็ต้องให้เห็นว่าอะไรดี ไม่ดี เพียงแต่ว่าด้านที่ไม่ดีก็ทำให้เห็นว่าแบบนี้ไม่ควรเอาอย่าง ซึ่งการที่เล่นแรงนั้น มันก็ต้องถ่ายทอดให้ได้" ชมพู่กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนจะจบรายการ สรยุทธ ยังทดลองสัมผัสกับบทบาทของเรยากับตัวเองด้วย

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร เคหาสน์สีแดง


เคหาสน์สีแดง
นำแสดงโดย แอนดริว เกรกสัน
มินท์ ณัฐวรา

เมื่อ พลตรีพลแสนเสนีณรงค์ พ่อของ รุจ รับ อัมพา ภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในเคหาสน์สีแดง ทำให้รุจโกรธ จนหนีไปศึกษาแพทย์ที่ต่างประเทศ 15 ปี จนพลตรีพลแสนเสนีณรงค์เสียชีวิตกะทันหัน รุจต้องทิ้งคู่รัก เสาวรส กลับมาที่เคหาสน์สีแดง แม่ ๆ ทั้ง 3 แม่ละม่อม แม่พร้อม และ แม่พิน ต่างดีใจที่ได้ดูแลคุณหนูของตัวเองอีกครั้ง แต่ อารยา บุคคลแปลกหน้า ลูกสาวของอัมพาผู้หญิงที่เขาเกลียด ก็เพิ่มความชิงชังที่จะต้องอยู่บ้านเดียวกัน ภายใต้สุภาพบุรุษของรุจเต็มไปด้วยวาจาถากถาง ทำให้อารยาอึดอัดที่อยู่บ้านเดียวกับเขา ถ้าไม่ได้แม่ทั้งสามให้ความอบอุ่น รวมถึงเพื่อนบ้านพนาเวสที่แสนดี ทั้ง คุณนายพนาเวส วัฒนา และ ชาลี โดยเฉพาะชาลีที่รักอารยามาก

รุจทำงานจนไม่สนใจสมบัติหรือ เสารส ในวงสังคมเธอได้พบ ภาคินัย ผู้มีสมบัติมากมายที่ไร่รวงผึ้ง แต่ ภคินี น้องสาวภาคินัย กลัวจะมาหลอกพี่ชายคนซื่อ เสาวรสไม่รู้ความทุกข์ใจของรุจที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับอารยากระทั่ง ขุนประจญคดี ปรากฎตัวขึ้นพร้อมจดหมายที่บิดาให้รุจแต่งงานกับอารยา รุจปฏิเสธ ด้วยความเกลียดและคอยเยอะหยันอารยา โดยมี ยายจ้วน คอยเติมเชื้อไฟความเกลียดให้รุจ

วันหนึ่งรุจรักษา นายชาญ เป็นหัวขโมย สุดท้ายไม่รอด นายชิด พ่อชาญโกรธแค้น จึงจะฆ่ารุจกลางดึกและประกาศตัวว่าเป็นผัวเก่าของอัมพา แม่เลี้ยงของรุจ อารยาตื่นขึ้นรู้ถึงเรื่องของแม่ และเจอรุจด่าซ้ำ จนสลบไป รุจเห็นจึงโอบเธอไว้ ด้วยจรรยาแพทย์ หรือเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ทำให้เขาขออารยาแต่งงาน อารยาไม่เข้าใจ จึงหนีออกจากเคหาสน์สีแดง เธอยอมทนลำบากข้างนอกดีกว่าทนอยู่กับรุจ

อารยาป่วยและได้ ฉลวย พยาบาลที่แอบรักหมอรุจคอยช่วยเหลือ ทั้งสิงจึงสนิทกัน ระหว่างนั้นอารยาติดต่อให้ชาลีหางานให้ แต่ก็ได้แค่ไปทำงานกับเพื่อนที่ชาลีรู้จักเท่านั้น เสาวรสเห็นรุจเฝ้าแต่ห่วงหาถึงอารยา เธอไม่ปล่อยโอกาส จึงตัดสินใจสลัดรักภาคินัย มาดหมายหวังเป็นนายหญิงแห่งเคหาสน์สีแดงให้ได้

รุจได้ข่าวอารยาจาก กิจจา เพื่อนนายแพทย์และฉลวย เขารีบไปโรงพยาบาล แต่ นารี พยาบาลสาวบอกว่าอารยาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เพื่อนของชาลีที่อยู่เมืองยอกคือภาคินัย อารยามาทำงานดูแลภคินีที่ประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพาต ทุกคนที่ไร่รวงผึ้งชอบอารยา โดยเฉพาะภาคินัยที่ถูกเสารสตัดเยื่อใย เขาหลงรักอารยา จนกระทั่งเสารส และพ่อ พระศัลยแพทย์พิสุทธิ์ มาที่ไร่รวงผึ้ง พอเสารสได้พบอารยา แผนก็ได้เริ่มขึ้น เสาวรสแนะนำภาคินัยว่าให้หมอรุจมารักษาภคินี

เมื่อเดินทางมาถึงไร่รวงผึ้ง รุจพบภาคินัยและอารยาสนิทสนมกัน ทำให้เขาอารมณ์เสีย รุจจึงบังคับให้อารยากลับเคหาสน์สีแดง และแต่งงานกับเขา แต่ไม่ใช่เพราะความรักเป็นเพียงความสงสารอารยา อารยาไม่ยอม ภาคินัยอยากแต่งงานกับอารยา เขาจึงไปขอกับหมอรุจ ทำให้เสารสผิดหวังจากชายสองคน เสาวรสแค้นมาก เธอต้องการฆ่าภาคินัย ภาคินัยถูกดักยิงบาดเจ็บสาหัส อารยาตามแพทย์มาช่วย เสาวรสห้ามพ่อไม่ให้ไปรักษาภาคินัย

อารยาไปหา ประพัฒน์ แต่เขาล้มป่วยอยู่ ชาวบ้านบอกมีหมออีกคน พอไปพบกลับเป็นหมอรุจ รุจพบอารยาอีกครั้งในสถานการณ์ที่อยู่บนเส้นด้ายแห่งชีวิตของ ภาคินัย และความแค้นที่เพิ่มขึ้นของเสาวรสที่มีต่ออารยา ใครกันจะได้รักคืนและเป็นเจ้าของเคหาสน์แห่งรัก

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

เรื่องย่อละคร ดอกส้มสีทอง

เรยา วงศ์เศวต หญิงสาววัยประมาณ 20 ปี สาวสวยหน้าตาคมเข้ม ผิวคล้ำนวลเนียน หน้าตากระเดียดไปทางแขกมากกว่าไทย เรยาเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก และมักหาข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงเรียนเสมอ จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เรยาแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันในชุดนักศึกษาแต่ไม่เคยไปถึงมหาวิทยาลัยเลย

วันนี้เธอกำลังเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคลบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในธุรกิจการบิน เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพซึ่งหญิงสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่สะดวกสบาย ได้เดินทางและได้พบปะกับบุคคลต่าง ๆ มากมายจากทั่วทุกมุมโลก เรยาเสี่ยงเข้ามาสมัครทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่จบการศึกษาในชั้นปีที่สามเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ทำให้เธอกล้าโกงอายุตนเองและแม้กระทั่งวุฒิทางการศึกษาด้วย สินธรคือคนที่เรยาใฝ่ฝันว่าจะเป็นผู้ที่บันดาลอนาคตที่งดงามให้กับเธอ เขารู้ในทันทีถึงความต้องการของตนเองและของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า อีกอย่างสินธรมีเวลาในการสานสัมพันธ์กับสาวน้อยผู้นี้ไม่มากนัก เนื่องจากเขาต้องรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาตามที่ เด่นจันทร์ ชลธี ภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนด สินธรจำต้องเกรงกลัวภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก เนื่องจากชีวิตความร่ำรวย อำนาจ บารมีต่าง ๆ ที่เขามีได้อย่างทุกวันนี้ ล้วนมาจากอำนาจภรรยาบันดาลให้ทั้งสิ้น




เด่นจันทร์ ชลธี บุตรสาวสวยเพียงคนเดียวของ นายเดช ชลธี คหบดีผู้มั่งคั่งและร่ำรวยอิทธิพลแห่งเมืองชลบุรี นายเดชนั้นทั้งรักและตามใจธิดาคนเดียวเป็นที่สุด เนื่องจากกำพร้ามารดาตั้งแต่ยังเล็ก เด่นจันทร์เจอสินธรเมื่อเธอนั้นไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สองเดือนต่อมาทั้งคู่ก็เข้าพิธีวิวาห์ยิ่งใหญ่แห่งรอบปี โดยที่เด่นจันทร์เองก็ไม่สนใจจะเรียนต่อให้จบอีกต่อไป รวมทั้งไม่สนใจด้วยว่าเจ้าบ่าวของเธอจะเป็นใครมาจากไหน เธอยืนกรานที่จะแต่งงานกับสินธรอย่างแน่นอน โดยที่นายเดชเองก็ไม่อาจจะคัดค้านได้ และด้วยอำนาจเงินและบารมีล้นฟ้า วงสังคมเมืองไทยต่างสรรเสริญว่าเด่นจันทร์ช่างฉลาดนักในการเลือกเจ้าบ่าว ซึ่งรูปสวยรวยวิชามาเป็นสามี

คฤหาสน์แดงเก่าคลาคล่ำริมคลองภาษีเจริญของ ท่านเจ้าสัวเชงสือเกียง คือสถานที่กำเนิดของเรยา มารดาของเธอคือ นางลำยอง หรือ ด๊วด สาวเชื้อสายมอญ ยายของเรยานั้นคือ นางลำเพา เป็นสาวสวยเชื้อสายมอญแถบปากลัด ลำเพานั้นเป็นหลานของ ยายพุ่ม แม่ครัวไทยเพียงคนเดียวของอาณาจักรจีนแห่งนี้ นางพาลำยองมาฝากให้นางพุ่มเลี้ยงดูเพราะนางกำลังจะแต่งงานใหม่กับ อาจารย์บุญสม หมอเสน่ห์ชื่อดังแห่งเมืองกาญจน์ ซึ่งเป็นสามีคนที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้ นางพุ่มเองก็เบื่อพฤติกรรมของญาติผู้น้องคนนี้เต็มที แต่ก็เต็มใจรับลำยองเอาไว้เลี้ยงดูโดยให้เป็นลูกมือช่วยทำอาหารในครัว


ลำยองเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ไม่ช่างพูดช่างเจรจาเหมือนมารดา ลำยองทำงานรับใช้อยู่ในครัวเป็นปกติ แต่ยามว่างเธอก็ขึ้นไปรับใช้คุณนายต่าง ๆ ของท่านเจ้าสัวบ้าง คุณนายของท่านเจ้าสัวมีทั้งหมด 4 คน คนแรกคือ เม่งฮวย คุณนายใหญ่จากเมืองจีน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบ่าวไพร่และจัดการบริหารควบคุมดูแลทุกเรื่องในบ้าน เยนหลิง คุณนายที่สอง หลานสาวท่านทูต ผู้มีหน้าตาท่าทางอ่อนหวาน กิริยามารยาทนุ่มนวล แต่ซ่อนความอิจฉาริษยาความดุร้ายไว้อย่างแนบเนียน เหม่เกว่ หรือ โรส คุณนายที่สาม อดีตนางเอกคณะอุปรากรจีน ชอบร้องเพลงร่ายรำเกือบตลอดทั้งวัน เธอเป็นคนโผงผางและตรงไปตรงมา คำแก้ว คุณนายคนสุดท้ายหรือคุณนายที่สี่ของท่านเจ้าสัว เธอเป็นคนใจดีและใจเย็น เรียบร้อย อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวานสมดังความเป็นชาวเหนือของเธออย่างแท้จริง

ลำยองมักจะถูกเยนหลิงเรียกให้ไปรับใช้บ่อยที่สุด เนื่องจากเธอมักวางท่าเป็นลูกผู้ลากมากผู้ดีอยู่เสมอ เธอทนไม่ได้กับกิริยามารยาทเลวทรามเหลือจะขัดเกลาของเด็กรับใช้คนเก่า ด้วยท่าทางเรียบร้อย กิริยามารยาทที่นอบน้อม ทำให้เยนหลิงเอ่ยปากขอลำยองไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัว ร้อนถึงนางพุ่มซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่าเยนหลิงเป็นคนเช่นไร นางไม่อยากให้หลานสาวไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัวของคุณนายที่สองผู้ร้ายกาจคนนี้เลย นางจึงแกล้งเป็นลมครั้งใหญ่ทำให้ในครัวเกิดความโกลาหล เมื่อขาดแม่ครัวใหญ่และผู้ทำอาหารได้ดีที่สุดในขณะนั้น ก็มีเพียงลำยองคนเดียว ทำให้ลำยองจำต้องกลับมาเป็นลูกมือและผู้ช่วยคนสำคัญในครัวดังเดิม ซึ่งลำยองเองก็ดีใจมากที่ไม่ต้องคอยนั่งตัวลีบต่อหน้าคุณนายเยนหลิงอีกต่อไปแล้ว ด้วยสังขารที่อ้วนพีเกินความจำเป็นของนางพุ่มและโรคภัยไข้เจ็บที่มาพร้อมวัยที่เปลี่ยนไป ทำให้นางเริ่มขี้เกียจออกไปจ่ายตลาด นางจึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นของลำยองแต่เพียงผู้เดียว

ลำยองออกไปจ่ายตลาดทุกวันจนได้พบกับ บังดุล หรือ นายอดุลย์ แขกยามซึ่งทำงานอยู่ที่ตึกของ คุณหลวงเจริญนิติเวช ชาวอังกฤษนายฝรั่งข้าง ๆ คฤหาสน์แดง ลำยองรู้สึกถูกชะตาบังดุลมากเนื่องจากในคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่มีแต่คนจีน หน้าตาจืดชืด ไม่คมเข้มอย่างบังดุลเลย ส่วนบังดุลเองก็รู้สึกชอบสาวน้อยหน้าตาสะสวย อ่อนหวาน กิริยามารยาทเรียบร้อยคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว ทั้งสองต่างพึงพอใจและรักกันในที่สุด และเมื่อความรักสุกงอมเป็นไปตามครรลองธรรมชาติ ฝ่ายหญิงก็ตั้งท้องขึ้น ลำยองเองรู้สึกหวาดกลัวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในตึกแดงท่านเจ้าสัวออกกฎอย่างเคร่งครัด หากรักใคร่ชอบพอกันจะจัดการสู่ขอให้อยู่กินกันตามประเพณีเลย ห้ามลักลอบได้เสียกันอย่างเด็ดขาด บังดุลได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นมั่นเหมาะกับลำยองไม่ให้หวาดกลัว เขาจะมาสู่ขอเธออย่างถูกต้องตามประเพณีอย่างแน่นอน


แต่แล้วดังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เกิดมีโจรขึ้นขโมยของในตึกนายฝรั่ง บังดุลเข้าทำหน้าที่ของเขาอย่างกล้าหาญจนถูกโจรแทงตาย ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย เมื่อไม่สามารถจัดการชีวิตของตนเองได้อีกต่อไป เธอจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษานางพุ่ม นางพุ่มแทบอกแตกตายเมื่อรู้พฤติกรรมของหลานสาว นางใช้เวลาคิดทบทวนอยู่หลายวัน จึงตัดสินใจพาลำยองไปขอความเมตตาจากเยนหลิง เพราะรู้ดีว่านาทีนี้เยนหลิงเป็นคุณนายเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตลำยอง ได้ เยนหลิงพูดจาดูถูกแดกดันลำยองอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจช่วยลำยอง สองสัปดาห์ต่อจากนั้นไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อท่านเจ้าสัวเชงค้างคืนกับคุณนายเยนหลิงตลอดสองสัปดาห์นั้น วันหนึ่งท่านเจ้าสัวออกปากกับทุกคนกลางโต๊ะอาหารเรื่องการตั้งครรภ์ของลำยอง ให้ทุกคนช่วยดูแลด้วย เม่งฮวยอยากจะคัดค้านที่สุดแต่ก็ไม่กล้า ทุกคนที่คฤหาสน์แดงจึงต้องช่วยกันดูแลลำยองอย่างไม่ปริปากบ่น


วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรสาวออกมา หน้าตาน่ารักน่าชังเหมือนบังดุลผู้เป็นพ่ออย่างยิ่ง ด้วยความรักและความสงสารที่ลูกเกิดมากำพร้าพ่อ ลำยองจึงตามใจลูกสาวคนเดียวในทุก ๆ เรื่อง ด้วยความที่เกิดมาหน้าตาเหมือนแขก ทุกคนรวมทั้งมารดาจึงเรียกเธอว่า แขก ซึ่งเรยาเกลียดนักหนา เธอไม่ชอบให้ใครมาล้อกำพืดของตนเอง เด็กน้อยแม้อายุเพียง 5 ขวบแต่ก็มีท่าทางก้าวร้าว ไม่กลัวใคร ทะเยอทะยาน หัวสูงจนหลายต่อหลายครั้งลำยองรู้สึกอ่อนใจในพฤติกรรมของบุตรสาว แต่ด้วยความรักลูกนางจึงปล่อยเลยตามเลย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมแย่ ๆ ของบุตรสาว


เรยามักเรียกแทนตัวเองเสมอว่า ฟ้า ซึ่งเด็กน้อยใฝ่ฝันจะเป็นนางฟ้าที่สูงส่งให้ได้สักวันในอนาคต ทุกคนที่คฤหาสน์แดงมักจะหัวเราะอย่างขบขันเมื่อได้ยินชื่อที่เรียกแทนตัวเองของเธอ บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของท่านเจ้าสัว อันประกอบด้วย คุณกองแก้ว และ คุณกรรณิการ์ บุตรสาวของเยนหลิง คุณเกียรติกร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของโรส ทุกคนรุมกันล้อเรยาอย่างตลกขบขันในความเป็นลูกแขก เรยาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง และตอบโต้บรรดาเจ้านายเล็กอย่างรุนแรงและหยาบคาย หลายครั้งที่ผ่านมาเรยามักรอดตัวเสมอ เพราะเหตุการณ์มักยุติลงก่อนที่จะมีผู้ใหญ่คนใดมาร่วมรับรู้ หากแต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างเรยาเหมือนครั้งก่อน ๆ เมื่อเยนหลิงเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี เรยาจึงโดนเฆี่ยนไปหลายที เด็กสาวร้องไห้อย่างเจ็บแค้นและเจ็บปวด ผลจากน้ำตาก็นับว่าคุ้มค่า ในวันนั้นมารดาของเธอเรียกบุตรสาวว่าฟ้าโดยที่ไม่เรียกชื่อแขกอีกเลย


ทุกคนที่คฤหาสน์แดงต่างตกใจเป็นอันมากที่รู้ว่าท่านเจ้าสัวพาคุณนายแหม่ม ซิลเวีย กลับมาด้วย ความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่นในหมู่ภรรยากลับมาอีกครั้ง เม่งฮวยเกลียดชังนังอั้งม้อผู้นี้ยิ่งนัก เนื่องจากการแสดงออกในความรักอย่างพร่ำเพรื่อไม่เลือกกาลเทศะ เวลา หรือสถานที่ของซิลเวียตามแบบชาวตะวันตก จึงเป็นที่ขัดลูกตาของเม่งฮวยเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเยนหลิงเธอเกลียดแสนเกลียดคุณนายฝรั่งผู้นี้จับใจ เธอจึงคอยหาทางปะทะคารมด้วยวาจาที่เชือดเฉือนอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่วาจาอันดุเด็ดเผ็ดร้อนของเยนหลิงก็ไม่เป็นผลอันใดเลย เมื่ออีกฝ่ายซึ่งมีความรู้ทางภาษาไทยน้อยเต็มทีไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ เยนหลิงจึงแทบอกแตกตายอยู่นั่นเอง การทำศัลยกรรมของท่านเจ้าสัวให้ผลดีแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น หากแต่ภายในไม่เป็นแต่อย่างใดเลย ท่านยังคงเป็นชายชราอายุ 60 ปีดังเดิม คุณนายแหม่มคนใหม่มักชวนให้ท่านออกไปสังสรรค์ ปาร์ตี้เข้าสังคมหรูหราเป็นประจำทุกค่ำคืน จนสุขภาพร่างกายทรุดโทรมเพราะไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จนล้มป่วยลงในเวลาต่อมา

เยนหลิงคิดหากลอุบายใหม่ด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ เธอจึงสั่งให้ลำยองเดินทางไปที่กาญจนบุรีอีกครั้ง เพื่อนำอาคมคาถาวิเศษมาทำลายซิลเวีย ลำยองเองเคยเดินทางไปเอาของมาให้เยนหลิงแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีกลาย และแล้วเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ นานาก็เกิดขึ้นในบ้าน เมื่อคุณนายที่สามกระโดดบ่อน้ำตายอย่างปริศนา คุณนายที่สี่วิกลจริตอย่างน่าสงสาร รวมทั้งเด็กรับใช้อีกหนึ่งคนป่วยตายอย่างน่าเวทนา ลำยองไม่รู้จะปฏิเสธเยนหลิงได้อย่างไร เธอสำนึกในบาปบุญคุณโทษ และคิดว่าตนเองคือต้นเหตุที่ทำให้สามชีวิตนั้นต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถ ในที่สุดลำยองจึงตัดสินใจไปพึ่งใบบุญเก่าของสามี ด้วยการเข้าไปหานายฝรั่งซึ่งเป็นเจ้านายของบังดุลเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อทราบเรื่องนายฝรั่งจึงจัดการฝากฝังให้ลำยองได้ไปทำงานที่บ้านเพื่อนของเขาในย่านบางกะปิ ซึ่งอยู่ไกลจากคลองภาษีเจริญแห่งนี้ ในวันที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปกาญจนบุรีจึงเป็นวันเดียวกับที่ลำยองพาเรยาบุตรสาวของเธอจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปอย่างไม่หวนกลับมา


เรยาและสินธรมักลอบพบกันและฮันนีมูนตามประเทศต่าง ๆ อยู่เสมอ แต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเพื่อนผู้หวังดีผู้หนึ่งของเด่นจันทร์เห็นเธอและสินธรเข้าที่นิวซีแลนด์ สายทางไกลจากนิวซีแลนด์ถึงกรุงเทพฯ จึงเกิดขึ้น เด่นจันทร์รู้ดีว่าสามีของเธอเจ้าชู้เพียงใด แต่การกระทำครั้งนี้มันหยามเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และทำลายความรู้สึกของเธอมากเหลือเกิน เมื่อกลับจากนิวซีแลนด์สินธรต้องพบกับคำขาดทันที เมื่อเด่นจันทร์ออกคำสั่งให้เขายุติความสัมพันธ์กับนางฟ้าตาหวานคนนี้ และต้องไม่มีเธอในบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์สอีกต่อไป หากไม่เป็นไปตามนั้นสินธรต้องออกจากชีวิตเด่นจันทร์ทันที


เรยารู้สึกเสียใจแต่ก็เพียงนิดเดียวเมื่อสินธรเป็นฝ่ายเลิกรากับเธอ โดยยื่นทรัพย์สินให้เธอเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตำแหน่งงานใหม่ในสายการบินอเมริกันชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้านหลังใหม่ พร้อมทั้งรับลำยองมาอยู่ด้วย ลำยองเห็นความเจริญก้าวหน้าของบุตรสาวเพียงวัตถุที่เห็น จึงชื่นชมโสมนัสไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร

ผู้โดยสารชั้นหนึ่งเพียงคนเดียวของสายการบินจากเมืองไทยสู่นิวซีแลนด์ ทำให้หัวใจเรยารู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงรีบเช็คดูทันทีว่าเขาเป็นใคร เขาคือ ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล บุตรชายคนโตของท่านเจ้าสัวเชงสือเกียงนั่นเอง เธอรีบเข้าไปทำความรู้จักกับเขาทันที การเดินทางรอบโลกอันยาวนานเพื่อเจรจาธุรกิจของเขาในครั้งนี้ค่อนข้างน่าเบื่อ เขาจึงคิดจะแวะมาพักผ่อนกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์ ก่อนจะบินกลับยุโรปเพื่อไปรับ ณฤดี บุตรสาวเอกอัครราชทูตผู้เป็นภรรยาก่อนบินกลับเมืองไทย เรยาสามารถล้วงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากนัก เป็นที่แน่นอนว่าเขามีเจ้าของแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญอันใดสำหรับเรยา เธอหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่า อย่างไรเสียเธอจะทำทุกสิ่งให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเจ้าสัวผู้นี้ทิ้งหัวใจไว้ที่นิวซีแลนด์ให้จงได้

ก้องเกียรติรู้สึกตัวตื่นขึ้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สาง มีร่างใครคนหนึ่งซึ่งนอนข้าง ๆ โผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว ก้องเกียรตินึกโกรธตัวเองนัก ตามกำหนดการเดิมของเขาคือมาเยี่ยมน้องชาย แต่เนื่องจากไม่ได้นัดกับน้องชายจึงคลาดเคลื่อนกัน มีเพียงเสียงข้อความที่อัดไว้ว่าเขาจะไม่อยู่บ้านตลอดทั้งเดือน ทีแรกก้องเกียรติคิดว่าจะกลับไปหาณฤดีและพักผ่อนอยู่กับเธอที่ยุโรปสักพัก และรับเธอกลับกรุงเทพฯ พร้อมกัน แต่แล้วด้วยเสียงรบเร้าและก่อกวนจากนางฟ้าแสนสวยผู้นี้ ก็ทำให้เขาใจอ่อนยอมให้เธอพาเที่ยวเล่นไปรอบ ๆ เมืองอยู่หลายวัน สมดังความตั้งใจของนางฟ้าตาหวานโดยแท้ เพราะความใจอ่อนของเขาอีกครั้ง ก้องเกียรติคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พา เรืองยศ เข้ามาสนิทสนมจนทำให้คำแก้วแม่เลี้ยงสาวของเขาต้องวิกลจริตไปก่อนวัยอันควร เมื่อเห็นภาพความสัมพันธ์อันอุจาดตาในค่ำคืนนั้น ความสัมพันธ์ในคืนนั้นที่เขาเผลอตัวไป ทำให้เรื่องยศเข้าใจผิดตีความเป็นอย่างอื่น จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงท่ามกลางมหาสมุทร เพียงเพราะการไม่ยอมรับความรักที่ผิดรูปแบบแผนปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ก้องเกียรติรู้สึกว่าชีวิตของตนเองเลว ร้ายลงไปทุกที

เรยายื่นข้อเสนอให้ก้องเกียรติเป็นผู้เลี้ยงดูเธอเช่นเดียวกับที่สินธรเคยกระทำ ก้องเกียรติจำต้องรับภาระข้อนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ชีวิตสมรสระหว่างเขาและณฤดีไม่เคยมีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ทุกอย่างดำเนินมาอย่างราบเรียบและผาสุก ขาดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือลูก ซึ่งเปรียบเสมือนโซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ แม้เวลาจะล่วงเลยมานานสักเพียงใดการรอคอยก็ไม่เป็นผลเลย ณฤดีเองก็ร้าวรานใจอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความเข้มแข็งที่มีภายในใจทำให้เธอไม่แสดงออกมาให้ใครได้เห็นเลย แม้กระทั่งก้องเกียรติก็ตาม

ก้องเกียรติมักค้างคืนกับเรยาบ้างตามแต่โชคชะตาและโอกาสจะอำนวย แต่ส่วนใหญ่เขามักจะอยู่กับณฤดี ซึ่งนั่นทำให้เรยายิ่งคั่งแค้นหนักขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งลำยองได้รู้ความจริงว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเป็น ภรรยาน้อยบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง เรยาบังคับให้มารดาไปเอาคุณไสยวิเศษจากตาที่กาญจนบุรีมาทำเสน่ห์ให้ก้อง เกียรติหลงใหลตนแต่เพียงผู้เดียว ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย บุตรสาวที่หล่อนรักปานแก้วตาดวงใจ ทำไมถึงไม่รู้สึกสำนึกในบาปบุญคุณโทษบ้างเลย คนเดียวที่ลำยองนึกถึงยามเกิดปัญหาคราวนี้ก็มีเพียงนางพุ่มเท่านั้น ที่จะเป็นคู่คิดให้คำปรึกษาและหาทางออกให้แก่ลำยองได้ นางจึงตัดสินใจเดินทางไปยังคฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญซึ่งเป็นที่อยู่เก่า ทันที

เวลาเนิ่นนานที่จากที่นี่ไปทำให้ลำยองไม่กล้าเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนดังเก่า เธอจึงได้แต่ยืนจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ริมคลองนั่นเอง แต่แล้วบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตก็ก้าวเข้ามา เยนหลิงหรือคุณนายที่สองนั่นเอง เยนหลิงบอกเล่าให้ลำยองรับรู้ว่าภายหลังจากการหนีไปของลำยองในครั้งนั้น เธอคั่งแค้นมากจึงแกล้งกุเรื่องว่าลำยองได้ขโมยของมีค่าและหลบหนีออกจากบ้านไป ทำให้นางพุ่มโดนจับเข้าคุกฐานสมรู้ร่วมคิด นางพุ่มโวยวายฟูมฟายอยู่ได้แค่ไม่นานนักก็หัวใจวายสิ้นใจตายทันที เยนหลิงขู่อาฆาตลำยองรวมทั้งจะทำร้ายเรยาอีกด้วย แต่ลำยองไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อีกต่อไปแล้ว นางเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุการตายของนางพุ่ม ผู้ซึ่งนางรักเคารพและบูชาเป็นที่สุด นางวิ่งร้องไห้ออกจากบ้านไปอย่างเสียสติและถูกรถชนตายในเวลาต่อมาตรงตึกสี นวลที่เธอและบังดุลเคยลักลอบเข้าไปจนเกิดเป็นพยานรักขึ้นนั่นเอง

เมื่อแม่ลำยองด่วนจากไปอย่างไม่คาดคิด ยิ่งไม่มีแม่ยิ่งต้องคิดหนักว่าจะไปต่อไปอย่างไรให้สวย และแล้วคำตอบก็หยุดอยู่ตรงที่การมีลูกให้เขาเชยชม เรยายอมตั้งครรภ์เพื่อที่จะมัดก้องเกียรติไว้กับตัว และแล้วความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อเธอตั้งครรภ์ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากสายการบินให้ก้องเกียรติดูแลเธออย่างเต็มตัว การตั้งครรภ์ครั้งนี้นำความปลาบปลื้มยินดีมาให้ก้องเกียรติยิ่งนัก เขาจึงมาคอยดูแลเอาอกเอาใจพะเน้าพะนอเธอผิดไปจากเมื่อก่อน แต่ยังคงซ่อนความหนักอกหนักใจที่ต้องปิดบังณฤดีและครอบครัวเช่นเดิม และการกลับบ้านในแต่ละครั้งของก้องเกียรติสร้างความโศกาอาดูรแก่เรยาเป็น อย่างมาก จนก้องเกียรติอ่อนใจ สถานที่ ๆ เรยามักจะไปในยามว่างคือสถานเสริมความงามต่าง ๆ เป็นที่รู้กันในร้านว่า คุณฟ้าคือลูกค้ารายใหญ่ต้องเอาอกเอาใจ ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด แม้คุณฟ้าจะเป็นเพียงอนุของบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง และเธอจะภูมิใจกับตำแหน่งนี้จนต้องอวดอ้างไปกระทบหูใครคนหนึ่งซึ่งเป็น เพื่อนสนิทณฤดีก็ตาม

ณฤดีฟังเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความไม่สบายใจ แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะเก็บมันไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียว ณฤดียังคงไปเยี่ยมเยียนเม่งฮวยมารดาสามีที่คฤหาสน์แดงตามปกติ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวจีนและลูกสะใภ้ไทยคู่นี้ดำเนินมาอย่างราบรื่น เม่งฮวยรักและเอ็นดูณฤดีมาก ถึงแม้ว่าเม่งฮวยจะไม่รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวบุตรชาย แต่เธอก็ให้คำมั่นว่าจะยอมรับสะใภ้ที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่ก็สร้างความสบายใจให้แก่ณฤดีได้ไม่น้อยเลย

บรรยากาศในคฤหาสน์แดงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อท่านเจ้าสัวประมุขใหญ่ล้มป่วยลงเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากวัยและร่างกายที่อ่อนแอ ประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและความหึงหวงที่ท่านเจ้าสัวมักพบเห็น โดยเฉพาะกับ ไทรรัตน์ บุตรชายนายพลสหายเก่าแก่ผู้หนึ่งของท่าน ซึ่งท่านเจ้าสัวและเม่งฮวยหมายตาจะให้มาเป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์บุตรสาว กรองกาญจน์นั้นไม่เคยสนใจชายหนุ่มที่บิดามารดาพยายามจัดหาให้เลย ยังคงชอบใช้ชีวิตโสดและวุ่นวายกับการสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้องกุหลาบ ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของโรสคุณนายที่สามผู้ล่วงลับไปแล้ว ตามคำแนะนำของนายแพทย์ประจำตัว ผู้ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้มีเพียงก้องเกียรติเท่านั้น ทุกคนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งท่านเจ้าสัวเลย ยกเว้นคุณนายแหม่มที่ลอบเข้าไปบ่อย ๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น

อาการล้มหมอนนอนเสื่อของท่านเจ้าสัว ทำให้ซิลเวียค่อนข้างเหงามาก เธอเริ่มเบื่อชีวิตเงียบเหงาในคฤหาสน์แดงที่ทุกคนดำรงชีวิตอย่างต่างคนต่างอยู่ ไม่มีใครสนใจกันเลย มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างภรรยาตลอดเวลา บุคคลเดียวที่ซิลเวียค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษคือสตรีร่างบางในชุดขาว คุณนายที่สี่ชาวเหนือที่มักวนเวียนอยู่แถวบ่อร้างหลังคฤหาสน์เป็นประจำสม่ำเสมอ เธอเคยได้ยินหญิงสาวผู้นั้นพึมพำบางอย่างเป็นภาษาอังกฤษบ่อยครั้ง ซิลเวียดีใจเป็นอย่างยิ่งที่มีคนสามารถพูดคุยภาษาเดียวกันกับเธอ หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามเพียรพูดคุยกับสตรีผู้นั้น แต่คำตอบที่ได้รับคือความว่างเปล่าและความไม่เข้าใจกันอยู่เสมอ

อรุณรุ่งของเช้าวันหนึ่ง ท่านเจ้าสัวตื่นนอนประมาณยามสาม ท่านควานหาร่างคุณนายแหม่มของท่านตามความเคยชินแต่ไม่พบ ด้วยอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นเพราะคิดไปเองว่าคุณนายแหม่มแอบลอบลงไปหาคบชู้ อย่างแน่นอน อารมณ์ร้อนรุ่มกลัดกลุ้มที่อยู่ภายในทำให้ท่านนอนไม่หลับ และเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ประมาณยามสี่ ท่านเจ้าสัวได้ยินสียงเพลงทำนองหวานเศร้าสร้อยดังกังวานขึ้น ท่านผุดลุกนั่ง อนุสติที่มีเหลืออยู่แม้เพียงน้อยนิด แต่ภาพซิลเวียที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไทรรัตน์ในบึงน้ำ ยังคงล่องลอยหลอกหลอนอยู่ไม่เสื่อมคลาย ท่านค่อย ๆ โผเผลุกขึ้นเพื่อจะไปจับให้ได้คาหนังคาเขา หากเป็นความจริงจะจับเธอโยนลงบ่อเหมือนดังคนอื่น ๆ ที่เคยประสบมา




เสียงเพลงยังคงดังกังวานตลอดเวลา หากแต่เสียงคนร้องช่างเหมือนเหม่เกว่ หรือคุณนายที่สามผู้ลาลับเสียนี่กระไร ท่านเจ้าสัวก้าวเดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อร้าง ภาพสุดท้ายที่ท่านเห็นคือคุณนายที่สามกำลังร่ายรำอย่างงดงาม ก่อนที่จิตสุดท้ายของท่านจะลาจากโลกนี้ไป คำแก้วตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกาเหว่าท้ายสวน เธอเดินเลื่อนลอยออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อนรกนั้น ร่างชายชราที่พาดอยู่ปากบ่อชวนให้นึกถึงวันสูญเสียบิดาในอดีต คำแก้วกรีดร้องอย่างโหยหวน และเป็นลมสิ้นสติอยู่ข้างศพท่านเจ้าสัวนั่นเอง

ทุกคนในคฤหาสน์แดงต่างเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของท่านเจ้าสัวทุกคน ยกเว้นแต่คุณนายแหม่มเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับใครเขา ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดที่จะให้กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ หล่อนคาดหวังว่าจะได้มรดกก้อนใหญ่เพื่อเปลี่ยนฐานะของตนให้กลายเป็นแม่ม่ายทรงเครื่อง แล้วหล่อนก็จะโบยบินไปสู่สหรัฐอเมริกาดินแดนแห่งอิสระเสรีทันที เยนหลิงพยายามยุยงทุกคนให้เห็นพ้องต้องกันกับหล่อนว่าคำแก้วเป็นคนฆาตกรรม ท่านเจ้าสัว แต่อาการวิกลจริตทางจิตของคำแก้วทำให้ไม่มีใครยอมเชื่อเยนหลิงเลยแม้แต่คนเดียว

ในที่สุดความหวังทั้งหมดของเรยาก็เป็นความจริง เมื่อเธอได้คลอดลูกชายตัวน้อย ๆ เป็นผู้สืบแซ่คนแรกของตระกูลเชงเลยทีเดียว ก้องเกียรติค่อนข้างรักและเห่อลูกชายอยู่มิใช่น้อย ในขณะที่เรยาค่อนข้างเบื่อหน่ายสภาพความเป็นแม่ในดินแดนที่ห่างไกลถึงนิวซีแลนด์นี้เต็มที เธอจ้างแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ไว้คอยเลี้ยงดูบุตรชาย ในขณะที่ตัวเธอเองไม่ทำอะไรเลย เรยามักหงุดหงิดและอาละวาดอยู่เสมอ ทำให้ไม่มีแม่บ้านคนใดอยากมาที่นี่นัก ยกเว้นแต่ต้องการรายได้ที่สูงลิบลิ่วเท่านั้น เรยาเรียกร้องให้ก้องเกียรติหย่าขาดกับณฤดีให้ถูกต้อง แต่ก้องเกียรติยังคงผลัดวันประกันพรุ่งมาโดยตลอด ทำให้เรยาเริ่มเปิดเผยตนเองด้วยการโทรไปยังบ้านก้องเกียรติ โดยมีณฤดีเป็นผู้รับสายหลายต่อหลายครั้ง แล้ววางหูไปเฉย ๆ ความกลัวเริ่มกัดกินใจณฤดีทีละน้อย เธอตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์เองอีกเลย ยิ่งนานวันก้องเกียรติเริ่มรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้รักเรยาเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงความหลงใหลชั่ววูบ ทุกสิ่งที่ประกอบกันเป็นเรยาไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่น งดงามควรค่าแก่ความรักที่เขาจะมอบให้ได้เลยแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจกลับเมืองไทยเพื่อห่างเธอสักพัก




เรยาร้องห่มร้องไห้ตีโพยตีพายตามปกติเมื่อก้องเกียรติเดินทางกลับเมืองไทยทุกครั้ง แต่เพียงไม่นานนักอารมณ์เหล่านั้นก็เลือนหาย เธอเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิม ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อหรูหราอย่างเดิม ตราบใดที่ยังมีเงิน ตราบนั้นเรยาไม่เคยกลัวสิ่งใด เธอเริ่มกลับสู่สังคมไฮโซตามสปอร์ตคลับ ที่นั่นเธอได้พบกับจิตแพทย์หนุ่มรูปงามเศรษฐีชาวเอเชียผู้หนึ่ง ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า ซี.เค. เรยารู้สึกถูกใจเขาตั้งแต่แรกเห็น เธอจึงพยายามพาตัวเองเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่แสดงทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าเธอมีลูกและมีสามีแล้วยิ่งทำให้เรยาลำพองใจยิ่งนัก แต่ซี.เค.ยังคงรักษาระยะห่างระหว่างเขาและเรยาอย่างเหนียวแน่น ทำให้เรยายิ่งรู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของเขายิ่งนัก ความรักและลุ่มหลงในตัวซี.เค.นับวันจะมีมากขึ้นตามลำดับ เธอลืมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความเป็นแม่หรือภรรยาที่ดีของก้องเกียรติ




เรยาตัดสินใจนำบุตรชายของตนเองเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อยกให้กับณฤดี ในที่สุดความกลัวที่ณฤดีรู้สึกมาโดยตลอดก็บังเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มีชีวิตอยู่ตรงหน้า เรยาผลักไสทารกน้อยให้เธออย่างไม่แยแส พร้อมท่าทางจากไปราวกับนางพญาก็ไม่ปาน ใครกันแน่ที่เป็นผู้แพ้ชนะในเรื่องนี้ ไม่มีใครให้คำตอบได้ มีเพียงความเย็นเยียบราวพายุฝนซึ่งตั้งเค้าภายในเรือนหอที่เคยอบอวลไปด้วยความรักหลังนั้น

เกียรติกรกลับเมืองไทยโดยที่ไม่เคยบอกกล่าวเรยา คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญที่เขาเคยอาศัยอยู่ยังคงแฝงไว้ด้วยความทรงจำใน อดีตมากมายก่อนการจากไกลของเขา คนไข้คนสำคัญที่สุดของก้องเกียรติกำลังรอคอยการรักษาจากจิตแพทย์ชื่อดังจากนิวซีแลนด์อย่างเขาอยู่ คำแก้วคือคนไข้รายแรกของเขาที่เมืองไทย ที่เขาให้คำมั่นกับก้องเกียรติว่าเธอจะต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน เรยากลับไปตามหาซี.เค.ของเธอที่บ้านริมน้ำที่นิวซีแลนด์ แต่ที่นั่นเธอต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อรู้ว่าเขากลับไปเมืองไทยเสียแล้วและจะไม่กลับมาที่นี่อีก เรยาตัดสินใจตามหาซี.เค.แทบพลิกแผ่นดิน ในที่สุดความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อเธอตามเจอที่อยู่ของเขาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ เขา

คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญได้มีโอกาสต้อนรับการกลับมาของเรยาอีกครั้ง ซี.เค.ยืนอยู่ที่นั่น หน้ายังคงระบายไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ เหมือนทุกครั้งยามมองดูเธอเสมอ ดั่งฟ้าผ่าลงมากลางใจ เมื่อซี.เค.นำเธอกลับสู่อดีตที่เธอไม่เคยคิดจะจดจำอีกครั้งหนึ่ง เขาคือ เกียรติกร เจนพานิชย์สกุล หรือ คุณชายเล็ก แห่งตระกูลเชงนั่นเอง ซี. คือตัวย่อของเชง ส่วนเค. คือเกียรติกร เรยาแทบล้มทั้งยืนเมื่อเกียรติกรยืนยันว่าเขาไม่เคยคิดรักเธอเลยแม้แต่น้อย หากทำไปเพราะแค่ลองใจเท่านั้น เธอยังคงเป็นนางฟ้าที่สวยแต่รูป เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะสามารถโตทันเป็นภรรยาน้อยของพี่ชายของเขาเอง เรยาจึงจากคฤหาสน์แดงมาอย่างเจ็บปวดรวดร้าวเป็นที่สุด..
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...